เชียงราย - 2 สหายแดงสยาม “บก.ลายจุด-คอมฯหลงยุค” ยังเดินสายยกหาง “แม้ว” ไม่หยุด แถมขึ้นเวทีปราศรัยเล่นคำส่อหมิ่นเบื้องสูงต่อเนื่อง
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงราย แจ้งว่า กลุ่มคนเสื้อแดงได้จัดเวทีปราศรัยชื่อตาสว่างต้านปฏิวัติ ขึ้นที่ลานตรงกันข้ามกำแพงเมือง บริเวณห้าแยกพ่อขุนเม็งรายมหาราช อ.เมือง จ.เชียงราย ค่ำวานนี้ (16 ก.พ.) โดยมี นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือ แซ่ด่าน และ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ สองแกนนำแดงสยาม เป็นผู้กล่าวปราศรัยหลัก และมีแกนนำคนเสื้อแดงในพื้นที่เชียงรายเข้าร่วมหลายคน เช่น นายธนิต บุญญลสินีเกษม, นายสมชัย แสงทอง, นายวิทยา ตันติภูวนาท, นายอรรถกร กันทะไชย, นายวีระ ชมภูวิเศษ, นายศรีนวล นวลหงษ์ ฯลฯ
โดยเนื้อหาช่วงต้นหลายคนได้ปราศรัยยกย่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า บริหารประเทศไทยได้ดีกว่ารัฐบาลที่มี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี และอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเปรียบเทียบว่า สามารถส่งนักเรียนไปเรียนหนังสือที่ต่างประเทศได้ ขณะที่รัฐบาลชุดปัจจุบันส่งคนไทยจำนวน 7 คนไปติดคุกที่ประเทศกัมพูชา ฯลฯ
ทั้งนี้ ก่อนขึ้นปราศรัย นายสมบัติ ได้เข้ารายการถ่ายทอดสดเสียงที่สถานีวิทยุชุมชนคนเสื้อแดงตั้งอยู่ชุมชนรั้วเหล็กเหนือ อ.เมือง โดยมุ่งโจมตีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) อย่างบิดเบือน ว่า เป็นสาเหตุทำให้เกิดการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา
ทั้งๆ ที่กัมพูชาได้รุกล้ำอาณาเขตประเทศไทยโดยอ้างข้อตกลงร่วมหรือเอ็มโอยู 2543 ก่อน และผู้ที่สนับสนุนให้กัมพูชาได้ใช้พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ในการบริหารจัดการเพื่อเป็นมรดกโลก ก็คือ รัฐบาลที่เป็นตัวแทน หรือนอมินีของระบอบทักษิณนั่นเอง ขณะที่ผู้ไปลงนามเอ็มโอยู ก็เป็นรัฐบาลที่นำโดยพรรคประชาธิปัตย์เมื่อปี 2543 ขณะที่กลุ่ม พธม.ชุมนุมเรียกร้องเพื่อให้แก้ไขปัญหาเพื่อหยุดยั้งการสูญเสียดินแดน
ขณะเดียวกัน มีการวิพากษ์รัฐบาลบริหารประเทศไม่เป็น เช่น กรณีปัญหาน้ำมันปาล์มแพง เกิดจากนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์กักตุนเพื่อเก็งกำไร รวมทั้งระบุว่า นายอภิสิทธิ์ บอกก่อนเป็นนายกรัฐมนตรีว่าหากได้เป็นนายกรัฐมนตรี จะยกเลิกภาษีน้ำมัน ภายใน 90 วัน แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่สามารถทำได้จนทำให้ราคาน้ำมันแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายสมบัติ กล่าวบนเวทีอย่างขัดแย้งกับกิจกรรมบนเวทีและรายการวิทยุ ว่า คนเสื้อแดงต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และยึดหลักการเหนือตัวบุคคล ซึ่งแตกต่างจากกลุ่ม พธม.ที่ยึดตัวบุคคลมากกว่าหลักการ
ทั้งๆ ที่คนเสื้อแดง หรือแม้แต่นายสมบัติ พึ่งไปออกรายการวิทยุปราศรัยยกย่องตัวบุคคลคือ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างต่อเนื่อง
ด้าน นายสุรชัย ได้กล่าวปราศรัยอย่างหมิ่นเหม่ ว่า รากฐานของปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเกิดจากเจ้าของคอกม้าโดยม้าเปรียบเสมือนทหาร ต่อมา พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เปรียบเสมือนคนขี่หรือจ๊อกกี้ สำหรับเจ้าของคอกม้านั้นไม่ใช่องคมนตรี แต่เป็นบุคคลที่อยู่เหนือขึ้นไปอีก โดยในอดีตเจ้าของคอกม้าเคยเล่นงานบุคคลสำคัญมาแล้ว เช่น นายปรีดี พนมยงค์ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นต้น
นายสุรชัย ยังกล่าวอีกว่า ในเหตุการณ์ชุมนุมของคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 ได้มีการกล่าวหาว่ามีอาวุธในกลุ่มคนเสื้อแดง แต่เหตุใดจึงไม่มีทหารเสียชีวิต
ทั้งๆ ที่เหตุการณ์ช่วงดังกล่าวมีทหารเสียชีวิตหลายนายและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก จากการเข้าไปขอคืนพื้นที่จากเวทีเสื้อแดงในวันที่ 10 เม.ย.53 โดยเฉพาะ พ.อ.พิเศษ ร่มเกล้า (ยศขณะนั้น)
จากนั้น นายสุรชัย ยังกล่าวยกย่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า มีความสามารถบริหารได้ดีกว่านายอภิสิทธิ์ จึงต้องต่อสู้เพื่อให้มาเป็นผู้นำให้ได้ รวมทั้งเรียกร้องให้ต่อสู้เพื่อเอาชนะเจ้าของคอกม้า
นายสุรชัย ยังกล่าวด้วยว่ารัฐธรรมนูญไทยเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ขอให้เป็นแบบประเทศญี่ปุ่น เพราะเจ้าของคอกม้าคือปัญหาของประเทศ โดยต้องเปลี่ยนโครงสร้างไม่ใช่เปลี่ยนคอกม้าหรือจ๊อกกี้ โดยสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ให้เป็นผู้นำในการต่อสู้
