ศูนย์ข่าวศรีราชา - ลูกเรือเขมรสุดโหด ชักเหล็กขูดชาร์ปกระหน่ำแทง 7 แผลกลางรอยสักรูปสิงห์บนหน้าอกหนุ่มนิรนาม แต่งกายคล้ายไต๋เรือประมงคนไทยปางตาย ก่อนจับโยนน้ำ
วันนี้ (16 ก.พ.) เวลา 01.10 น. ร.ต.ท.เอกชัย มูลลี ร้อยเวรสอบสวน สภ.สัตหีบ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ ว่ารถกู้ชีพได้ให้การช่วยเหลือรับผู้ได้รับบาดเจ็บถูกอาวุธมีดแทงอาการสาหัส จากสะพานท่าเทียบเรือเพทาย ม.4 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เข้ารักษาตัวยังห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ จึงได้รุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมชาย สุนทวนิค ผกก.สภ.สัตหีบ พ.ต.ท.นิพนธ์ ป้อมสนาม รอง ผกก.สส. พ.ต.ท. ประกอบ แสงพริ้ง รอง ผกก.ป.ฯพ.ต.ท.ดำรงค์ อ้วนสูงเนิน สวป. พ.ต.ต.ปารุต สามารถ สว.สส. และชุดสืบสวน
ภายในห้องฉุกเฉินแพทย์ พยาบาล กำลังให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชายไม่ทราบสัญชาติ อายุประมาณ 30 ปี ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขายาวสีน้ำตาล มีรอยสักรูปสิงห์กลางหน้าอก ถูกแทงด้วยเหล็กขูดชาร์ปเข้าที่บริเวณกลางหน้าอก จำนวน 7 แผล นอนหายใจรวยริน ร่างกายไร้การตอบสนอง เบื้องต้นผู้ได้รับบาดเจ็บมีเลือดคั่ง แพทย์จึงต้องนำตัวเข้าห้องผ่าตัดเป็นการด่วน ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน
จากการสอบถาม นายปรีชา พิพัฒน์ผล หัวหน้ากู้ภัยจุดบางเสร่ เผยว่า หลังรับแจ้งมีคนถูกอาวุธมีดแทงบริเวณกลางสะพานท่าเทียบเรือเพทาย จึงได้รุดไปตรวจสอบพบลูกเรือประมง สัญชาติกัมพูชาจำนวน 3 คน วิ่งสวนทางออกมาด้วยอาการลุกลี้ลุกลน และพบมีผู้ได้รับบาดเจ็บลอยคออยู่ในทะเลจึงช่วยเหลือนำตัวขึ้นจากทะเล และปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งมือแพทย์ ซึ่งคาดว่ากลุ่มคนร้ายหลังก่อเหตุได้จับโยนทิ้งทะเลหวังเป็นศพอืดในทะเล ป้องกันการติดตามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่มีผู้พบเห็นและแจ้งเจ้าหน้าที่เสียก่อน
พ.ต.อ.สมชาย สุนทวนิค ผกก.สภ.สัตหีบ เปิดเผยว่า คาดว่าผู้ได้รับบาดเจ็บอาจเป็นไต๋เรือประมงคนไทย ซึ่งถูกกลุ่มลูกเรือประมงชาวกัมพูชารุมทำร้ายด้วยเหล็กขูดชาร์ป หวังฆ่าให้ตายก่อนนำศพโยนทิ้งทะเลเพื่ออำพรางคดี แต่มีผู้มาพบเห็นเสียก่อน และแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้การช่วยเหลือได้ทัน ทั้งนี้ ต้องรอผู้ได้รับบาดเจ็บหายดีพร้อมให้ปากคำ จึงจะสามารถทำการสอบสวนหาตัวคนร้าย เบื้องต้นได้ส่งชุดสืบสวนออกติดตามหาข่าว และหาพยานในที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามกลุ่มคนร้ายซึ่งคาดว่าเป็นลูกเรือประมงชาวกัมพูชา มีจำนวนไม่ต่ำกว่า 2 คน มาลงโทษตามกฎหมายต่อไป