จันทบุรี - สถานการณ์ชายแดนจันทบุรี ทหารไทยยังตึงกำลังประชิดชายแดนอยู่ หลังทหารกัมพูชาไม่มีท่าทีลดกำลังทหารลง ขณะที่ชาวบ้านจัดทำหลุมหลบภัย และโรงเรียนที่อยู่ติดแนวชายแดนจัดซ้อมแผนการอพยพเพื่อป้องกันเหตุการณ์ปะทะ เกิดขึ้นแต่การค้าขายยังปกติด่านชายแดนยังไม่ปิดแต่อย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดจันทบุรี ยังคงตึงเครียด หลังกำลังทหารทั้งไทยและกัมพูชายังคงมีการตรึงกำลังประชิดชายแดนอยู่ โดยไม่มีการลดกำลังทหารลง ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ตามแนวชายแดนหวั่นเกิดการปะทะสู้รบกันเกิดขึ้น
นายไมตรี คำอ่อน อายุ 56 ปี ผู้ใหญ่บ้านซับตารี หมู่ 2 ต.ทุ่งขนาน อ.สอยดาว จ.จันทบุรี เปิดเผยว่า บ้านซับตารี เป็นหมู่บ้านชายแดนติดกับหมู่บ้านกะบิน ต.เพชรจินดา อ.พนมปรึก จ.พระตะบอง ของกัมพูชา ซึ่งชาวบ้านยังมีความกังวลต่อสถานการณ์ชายแดนที่เกิดขึ้น ด้าน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพราะขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน และเพื่อความปลอดภัยชาวบ้านซับตารี จึงสร้างหลุมหลบภัยไว้ในบริเวณบ้านแล้วกว่า 10 ครัว เรือน บางรายจัดเตรียมน้ำและอาหารสำรองไว้ล่วงหน้า เพราะไม่มั่นใจในสถานการณ์
ส่วนแรงงานชาวกัมพูชาที่เข้ามาทำงานรับจ้าง ในจังหวัดจันทบุรี ไม่มั่นใจต่อสถานการณ์ชายแดน และส่วนใหญ่มีความกังวล หวั่นว่าการสู้รบจะบานปลายและร้ายแรง จนถึงขั้นปิดด่านผ่านแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งจะทำให้แรงงานทั้งหมดถูกผลักดันออกจากพื้นที่ทันที
นอกจากนี้ จะพบว่า โรงเรียนที่อยู่ตามแนวชายแดนด้านจังหวัดจันทบุรี ทั้งด้านชายแดนถาวรบ้านแหลมและด่านชายแดนถาวรบ้านผักกาด อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ทางโรงเรียนเริ่มที่จะมีการซ้อมแผนการอพยพเพื่อป้องกันอันอาจจะเกิดการสู้รบกันเกิดขึ้น
ส่วนด้านการค้าขาย และการเข้า-ออก ที่บริเวณด่านชายแดน ยังเป็นไปปกติและยังไม่มีการปิดด่านชายแดนแต่อย่างไรส่วนสินค้าส่งออก หรือการนำเข้าเริ่มมีการชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องและเริ่มมีผลกระทบและความเสีย หายเป็นวงกว้างมากขึ้น สาเหตุมาจากทางพ่อค้าแม่ค้าทั้งชาวไทย และชาวกัมพูชายังไม่มั่นใจกับสถานการณ์ชายแดนที่ยังคงมีทหารทั้ง 2 ประเทศตรึงกำลังอยู่ตามแนวชายแดนทั้ง 2 แห่ง และไม่รู้ว่าจะมีการสู้รบกันเกิดขึ้นหรือไหมอย่างไร
ในเรื่อง ดร.อสิวุฒิ ตั้งเกียรติ นายกสมาคมการค้าการท่องเที่ยวไทย-กัมพูชา จังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า ตนเองมั่นใจว่าจะไม่มีการสู้รบกันเกิดขึ้นเนื่องจากชายแดนด้านจังหวัดจันทบุรี ความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาโดยตลอด และมีการพบปะพูดคุยกันเมื่อมีปัญหา รวมทั้งมีการจัดงานสานสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศกัมพูชามาอย่างต่อ เนื่องเป็นประจำทุกปีจึงคิดว่าการสู้รบจะไม่เกิดขึ้นกับพื้นที่ชายแดนด้าน จังหวัดจันทบุรีอย่างแน่นอน ตรงจุดนี้อยากให้รัฐบาลหันหน้าเจรจากันเพื่อหาความสันติกับมาทำการค้าขายกันเหมือนปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดจันทบุรี ยังคงตึงเครียด หลังกำลังทหารทั้งไทยและกัมพูชายังคงมีการตรึงกำลังประชิดชายแดนอยู่ โดยไม่มีการลดกำลังทหารลง ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ตามแนวชายแดนหวั่นเกิดการปะทะสู้รบกันเกิดขึ้น
นายไมตรี คำอ่อน อายุ 56 ปี ผู้ใหญ่บ้านซับตารี หมู่ 2 ต.ทุ่งขนาน อ.สอยดาว จ.จันทบุรี เปิดเผยว่า บ้านซับตารี เป็นหมู่บ้านชายแดนติดกับหมู่บ้านกะบิน ต.เพชรจินดา อ.พนมปรึก จ.พระตะบอง ของกัมพูชา ซึ่งชาวบ้านยังมีความกังวลต่อสถานการณ์ชายแดนที่เกิดขึ้น ด้าน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพราะขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน และเพื่อความปลอดภัยชาวบ้านซับตารี จึงสร้างหลุมหลบภัยไว้ในบริเวณบ้านแล้วกว่า 10 ครัว เรือน บางรายจัดเตรียมน้ำและอาหารสำรองไว้ล่วงหน้า เพราะไม่มั่นใจในสถานการณ์
ส่วนแรงงานชาวกัมพูชาที่เข้ามาทำงานรับจ้าง ในจังหวัดจันทบุรี ไม่มั่นใจต่อสถานการณ์ชายแดน และส่วนใหญ่มีความกังวล หวั่นว่าการสู้รบจะบานปลายและร้ายแรง จนถึงขั้นปิดด่านผ่านแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งจะทำให้แรงงานทั้งหมดถูกผลักดันออกจากพื้นที่ทันที
นอกจากนี้ จะพบว่า โรงเรียนที่อยู่ตามแนวชายแดนด้านจังหวัดจันทบุรี ทั้งด้านชายแดนถาวรบ้านแหลมและด่านชายแดนถาวรบ้านผักกาด อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ทางโรงเรียนเริ่มที่จะมีการซ้อมแผนการอพยพเพื่อป้องกันอันอาจจะเกิดการสู้รบกันเกิดขึ้น
ส่วนด้านการค้าขาย และการเข้า-ออก ที่บริเวณด่านชายแดน ยังเป็นไปปกติและยังไม่มีการปิดด่านชายแดนแต่อย่างไรส่วนสินค้าส่งออก หรือการนำเข้าเริ่มมีการชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องและเริ่มมีผลกระทบและความเสีย หายเป็นวงกว้างมากขึ้น สาเหตุมาจากทางพ่อค้าแม่ค้าทั้งชาวไทย และชาวกัมพูชายังไม่มั่นใจกับสถานการณ์ชายแดนที่ยังคงมีทหารทั้ง 2 ประเทศตรึงกำลังอยู่ตามแนวชายแดนทั้ง 2 แห่ง และไม่รู้ว่าจะมีการสู้รบกันเกิดขึ้นหรือไหมอย่างไร
ในเรื่อง ดร.อสิวุฒิ ตั้งเกียรติ นายกสมาคมการค้าการท่องเที่ยวไทย-กัมพูชา จังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า ตนเองมั่นใจว่าจะไม่มีการสู้รบกันเกิดขึ้นเนื่องจากชายแดนด้านจังหวัดจันทบุรี ความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาโดยตลอด และมีการพบปะพูดคุยกันเมื่อมีปัญหา รวมทั้งมีการจัดงานสานสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศกัมพูชามาอย่างต่อ เนื่องเป็นประจำทุกปีจึงคิดว่าการสู้รบจะไม่เกิดขึ้นกับพื้นที่ชายแดนด้าน จังหวัดจันทบุรีอย่างแน่นอน ตรงจุดนี้อยากให้รัฐบาลหันหน้าเจรจากันเพื่อหาความสันติกับมาทำการค้าขายกันเหมือนปกติ