ตราด - ผู้ว่าฯตราด ตรวจพื้นที่ชายแดนบ้านหาดเล็ก พร้อมมอบสิ่งของบำรุงขวัญทหาร เผยมั่นใจทหารรักษาอธิปไตย ความปลอดภัยชายแดนได้
วันนี้ (15 ก.พ.) ที่ฐานหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินที่ 182 (บ้านหาดเล็ก) อ.คลองใหญ่ จ.ตราด นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการ จ.ตราด พร้อม นายนภดล ศรีสุข ปลัดจังหวัดตราด พร้อมกรรมการเหล่ากาชาด จ.ตราด น.อ.กิตติคุณ นาคสุก ผบ.หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ร่วมเดินทางไปมี น.ท.สุรเชษฐ์ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินที่ 182 ให้การต้อนรับ
หลังจากผู้ว่าราชการ จ.ตราด ให้โอวาท และมอบสิ่งของแล้วได้เดินทางไปที่ฐานพระยาพิชัย บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ตรงบริเวณบังเกอร์ของทหาร และเข้าไปที่บริเวณช่องทางชายแดน พบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวยุโรปกว่า 50 คน เดินทางจาก จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชาเพื่อเข้าสู่ จ.ตราด นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ รวมทั้งชาวกัมพูชาอยู่ในพื้นที่อย่างคึกคัก
นางสาว เบญจวรรณ กล่าว กับผู้สื่อข่าวว่า เนื่องในเทศกาลแห่งความรัก ตนเองได้เดินทางมาเพื่อมอบความรักให้กับทหารทุกเหล่าในพื้นที่ชายแดน ซึ่งหลังเดินทางเยี่ยมทหารตำรวจตระเวนชายแดนตามแนวชายแดนด้านจังหวัดตราด ก็ได้รับรายงานถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนตั้งแต่ อ.บ่อไร่ ถึง อ.คลองใหญ่พบว่า แม้กัมพูชาจะมีการตึงกำลังมาประชิดชายแดนไทย-กัมพูชาตลอดแนว แต่ทหารไทยก็ได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งกำลังทหารและกำลังอาวุธเพื่อปกป้องอธิปไตย โดยฝ่ายปกครองมีความมั่นใจว่าหากมีการสู้รบขึ้น ประชาชนตามแนวชายแดนจะได้รับการคุ้มครองและปลอดภัย จากการปฏิบัติหน้าที่ของ ทหาร
“เราไม่ต้องการให้เกิดการสู้รบใดๆ เกิดขึ้นในพื้นที่ เพราะจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการค้าระหว่าง 2 ประเทศ ที่ ผ่านมาก็ได้มีการเจรจาระหว่าง 2 จังหวัด เพื่อสร้างความเข้าใจ ระหว่าง 2 ฝ่าย จึงมั่นใจว่าสถานการณ์ในพื้นที่ จ.ตราด จะไม่มีอะไรที่รุนแรงเกิดขึ้น แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ก็คือข่าวลือในพื้นที่ ที่เป็นข่าวเชิงลบ และส่งผลกระทบกับปัญหาในพื้นที่ชายแดนและอาจสร้างความ สับสนและไม่เข้าใจกันระหว่าง 2 ฝ่ายจึงต้องแก้ไขในเรื่องนี้โดยเร็ว”
ขณะที่ น.อ.อภรักษ์ กลิ่นหม่น หัวหน้าหน่วยประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ตราด กล่าวว่า ปัญหาในพื้นที่ชายแดนบ้านหาดเล็กขณะนี้ คือ ข่าวลือในพื้นที่ที่ระบุว่า มีการปะทะเกิดขึ้นระหว่าง 2 ฝ่าย และมีบ่อย ซึ่งอาจจะสร้างความไม่เข้าใจระหว่าง 2 ฝ่ายและเกิดความสับสน จนอาจจะบานปลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ จึงจำเป็นจะต้องกลบกระแสข่าวเหล่านี้ให้หมดไป ส่วนการเสริมอาวุธหรือกำลังใน จ.เกาะกง มีรถถังมาประจำการก็ยังไม่เคยเห็น ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีการแก้ไขให้เร็วที่สุดก่อนที่จะเกิดปัญหาขึ้น
วันนี้ (15 ก.พ.) ที่ฐานหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินที่ 182 (บ้านหาดเล็ก) อ.คลองใหญ่ จ.ตราด นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการ จ.ตราด พร้อม นายนภดล ศรีสุข ปลัดจังหวัดตราด พร้อมกรรมการเหล่ากาชาด จ.ตราด น.อ.กิตติคุณ นาคสุก ผบ.หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ร่วมเดินทางไปมี น.ท.สุรเชษฐ์ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินที่ 182 ให้การต้อนรับ
หลังจากผู้ว่าราชการ จ.ตราด ให้โอวาท และมอบสิ่งของแล้วได้เดินทางไปที่ฐานพระยาพิชัย บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ตรงบริเวณบังเกอร์ของทหาร และเข้าไปที่บริเวณช่องทางชายแดน พบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวยุโรปกว่า 50 คน เดินทางจาก จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชาเพื่อเข้าสู่ จ.ตราด นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ รวมทั้งชาวกัมพูชาอยู่ในพื้นที่อย่างคึกคัก
นางสาว เบญจวรรณ กล่าว กับผู้สื่อข่าวว่า เนื่องในเทศกาลแห่งความรัก ตนเองได้เดินทางมาเพื่อมอบความรักให้กับทหารทุกเหล่าในพื้นที่ชายแดน ซึ่งหลังเดินทางเยี่ยมทหารตำรวจตระเวนชายแดนตามแนวชายแดนด้านจังหวัดตราด ก็ได้รับรายงานถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนตั้งแต่ อ.บ่อไร่ ถึง อ.คลองใหญ่พบว่า แม้กัมพูชาจะมีการตึงกำลังมาประชิดชายแดนไทย-กัมพูชาตลอดแนว แต่ทหารไทยก็ได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งกำลังทหารและกำลังอาวุธเพื่อปกป้องอธิปไตย โดยฝ่ายปกครองมีความมั่นใจว่าหากมีการสู้รบขึ้น ประชาชนตามแนวชายแดนจะได้รับการคุ้มครองและปลอดภัย จากการปฏิบัติหน้าที่ของ ทหาร
“เราไม่ต้องการให้เกิดการสู้รบใดๆ เกิดขึ้นในพื้นที่ เพราะจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการค้าระหว่าง 2 ประเทศ ที่ ผ่านมาก็ได้มีการเจรจาระหว่าง 2 จังหวัด เพื่อสร้างความเข้าใจ ระหว่าง 2 ฝ่าย จึงมั่นใจว่าสถานการณ์ในพื้นที่ จ.ตราด จะไม่มีอะไรที่รุนแรงเกิดขึ้น แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ก็คือข่าวลือในพื้นที่ ที่เป็นข่าวเชิงลบ และส่งผลกระทบกับปัญหาในพื้นที่ชายแดนและอาจสร้างความ สับสนและไม่เข้าใจกันระหว่าง 2 ฝ่ายจึงต้องแก้ไขในเรื่องนี้โดยเร็ว”
ขณะที่ น.อ.อภรักษ์ กลิ่นหม่น หัวหน้าหน่วยประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ตราด กล่าวว่า ปัญหาในพื้นที่ชายแดนบ้านหาดเล็กขณะนี้ คือ ข่าวลือในพื้นที่ที่ระบุว่า มีการปะทะเกิดขึ้นระหว่าง 2 ฝ่าย และมีบ่อย ซึ่งอาจจะสร้างความไม่เข้าใจระหว่าง 2 ฝ่ายและเกิดความสับสน จนอาจจะบานปลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ จึงจำเป็นจะต้องกลบกระแสข่าวเหล่านี้ให้หมดไป ส่วนการเสริมอาวุธหรือกำลังใน จ.เกาะกง มีรถถังมาประจำการก็ยังไม่เคยเห็น ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีการแก้ไขให้เร็วที่สุดก่อนที่จะเกิดปัญหาขึ้น
