ตราด - ศุลกากรคลองใหญ่ เผยประกาศห้ามยุทธปัจจัยเข้ากัมพูชาไม่ได้รับคำสั่งจากกรม ขณะพ่อค้าชายแดน เผย กระทบบ้าง แต่ไม่มาก ด้านการค้าเข้า-ออกชายแดนปกติ
แหล่งข่าวจากด่านศุลกากรคลองใหญ่ จ.ตราด เปิดเผยว่า ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ได้ส่งผลกระทบต่อการค้าตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ตราด แล้วจะสังเกตได้จากจำนวนพ่อค้า-แม่ค้า ทั้งไทยและกัมพูชาที่มีจำนวนลดลงมาก จำนวนนักท่องเที่ยวก็ลดลงไม่เดินทางเข้าไปยังกัมพูชามากนัก ขณะที่มีแนวโน้มการค้าในระยะยาวจะมีแนวโน้มลดลงหากความขัดแย้งยังดำรงอยู่ ที่ผ่านมา มูลค่าการค้าระหว่างไทย-กัมพูชา จะมีมูลค่าเดือนละ 1,500-1,800 ล้านบาท หรือปีละ 19,000 ล้านบาท ซึ่งปี 2554 มีแนวโน้มจะทะลุ 20,000 ล้านบาท
สำหรับการห้ามสินค้ายุทธปัจจัยเข้าไปในกัมพูชา เช่น เชื้อเพลิง ยารักษาโรค นั้น ยังไม่ได้รับคำสั่งจากอธิบดีกรมศุลกากร แต่หากมีการควบคุมจริง ก็อาจจะกระทบบ้าง เช่น ยารักษาโรค หรือก๊าซหุงต้ม ที่ทาง จ.ตราดได้อนุโลมให้ชาวเกาะกง กัมพูชา ซื้อได้ 1 ถัง/ครอบครัว ส่วนน้ำมันเชื้อเพลิง ไม่มีการส่งออกอยู่แล้ว เนื่องจากราคาน้ำมันในกัมพูชามีราคาต่ำกว่าไทย
ขณะที่ นายสมชาย กิมสร้อย รองนายกเทศบาล ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด และพ่อค้าชายแดนด้าน จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา กล่าวว่า พื้นที่จุดผ่านแดนบ้านหาดเล็กยังไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์มากนัก ประชาชนทั้งสองยังสามารถเดินทางเข้า-ออกได้ตลอดเวลา โดยในช่วงเช้าที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวจาก จ.นครราชสีมา กว่า 100 คนเดินทางมาท่องเที่ยวบ้านหาดเล็ก และซื้อสินค้าจากบ้านหาดเล็กไปจำนวนมาก และในช่วงเช้าก็มีพ่อค้าแม่ค้าเดินทางมาซื้อสินค้าในบ้านหาดเล็กตามปกติไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น
ในส่วนสินค้ายุทธปัจจัยนั้น นายสมชาย กล่าวว่า ไม่มีสินค้าตัวไหนที่จะทำให้ จ.ตราด ได้รับผลกระทบ เพราะน้ำมันกัมพูชาก็ถูกกว่าไทย ก๊าซธรรมชาติที่มีชาวเกาะกงซื้อไปก็เป็นแค่ความช่วยเหลือพิเศษเท่านั้น ส่วนยารักษาโรคปัจจุบันในกัมพูชาก็มีเพียงพอ แต่คุณภาพอาจจะสู้ของฝั่ง จ.ตราด ไม่ได้ ทำให้การห้ามไม่ให้พ่อค้าส่งยุทธปัจจัยไปกัมพูชา จึงไม่น่ามีผลกระทบกับการค้าขายของ จ.ตราด มากนัก
แหล่งข่าวจากด่านศุลกากรคลองใหญ่ จ.ตราด เปิดเผยว่า ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ได้ส่งผลกระทบต่อการค้าตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ตราด แล้วจะสังเกตได้จากจำนวนพ่อค้า-แม่ค้า ทั้งไทยและกัมพูชาที่มีจำนวนลดลงมาก จำนวนนักท่องเที่ยวก็ลดลงไม่เดินทางเข้าไปยังกัมพูชามากนัก ขณะที่มีแนวโน้มการค้าในระยะยาวจะมีแนวโน้มลดลงหากความขัดแย้งยังดำรงอยู่ ที่ผ่านมา มูลค่าการค้าระหว่างไทย-กัมพูชา จะมีมูลค่าเดือนละ 1,500-1,800 ล้านบาท หรือปีละ 19,000 ล้านบาท ซึ่งปี 2554 มีแนวโน้มจะทะลุ 20,000 ล้านบาท
สำหรับการห้ามสินค้ายุทธปัจจัยเข้าไปในกัมพูชา เช่น เชื้อเพลิง ยารักษาโรค นั้น ยังไม่ได้รับคำสั่งจากอธิบดีกรมศุลกากร แต่หากมีการควบคุมจริง ก็อาจจะกระทบบ้าง เช่น ยารักษาโรค หรือก๊าซหุงต้ม ที่ทาง จ.ตราดได้อนุโลมให้ชาวเกาะกง กัมพูชา ซื้อได้ 1 ถัง/ครอบครัว ส่วนน้ำมันเชื้อเพลิง ไม่มีการส่งออกอยู่แล้ว เนื่องจากราคาน้ำมันในกัมพูชามีราคาต่ำกว่าไทย
ขณะที่ นายสมชาย กิมสร้อย รองนายกเทศบาล ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด และพ่อค้าชายแดนด้าน จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา กล่าวว่า พื้นที่จุดผ่านแดนบ้านหาดเล็กยังไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์มากนัก ประชาชนทั้งสองยังสามารถเดินทางเข้า-ออกได้ตลอดเวลา โดยในช่วงเช้าที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวจาก จ.นครราชสีมา กว่า 100 คนเดินทางมาท่องเที่ยวบ้านหาดเล็ก และซื้อสินค้าจากบ้านหาดเล็กไปจำนวนมาก และในช่วงเช้าก็มีพ่อค้าแม่ค้าเดินทางมาซื้อสินค้าในบ้านหาดเล็กตามปกติไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น
ในส่วนสินค้ายุทธปัจจัยนั้น นายสมชาย กล่าวว่า ไม่มีสินค้าตัวไหนที่จะทำให้ จ.ตราด ได้รับผลกระทบ เพราะน้ำมันกัมพูชาก็ถูกกว่าไทย ก๊าซธรรมชาติที่มีชาวเกาะกงซื้อไปก็เป็นแค่ความช่วยเหลือพิเศษเท่านั้น ส่วนยารักษาโรคปัจจุบันในกัมพูชาก็มีเพียงพอ แต่คุณภาพอาจจะสู้ของฝั่ง จ.ตราด ไม่ได้ ทำให้การห้ามไม่ให้พ่อค้าส่งยุทธปัจจัยไปกัมพูชา จึงไม่น่ามีผลกระทบกับการค้าขายของ จ.ตราด มากนัก