พะเยา - รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ลงพื้นที่ตรวจสอบ ต้นตะเคียนทอง อายุกว่า 200 ปี ที่ถูกชาวบ้านต้านชักลากออกนอกพื้นที่ หลังนายทุนตัดโค่นบริจาคให้มูลนิธิสว่างคุณธรรม ขณะที่ชาวบ้านยังคงทำการปิดล้อมไม่ยอมให้เจ้าของชักลากออกนอกพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรอทางจังหวัดตรวจสอบ
วันนี้ (11 ก.พ.) หลังจากกลุ่มชาวบ้าน ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.พะเยา เข้าปิดล้อมต้นตะเคียนทอง อายุกว่า 200 ปี ที่เจ้าของ คือ นางปราณี เจริญทวี อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 5 ม.5 ต.ตะปอน อ.ขลุง จ.จันทบุรี ได้ทำการตัดโค่นเพื่อบริจาคให้มูลนิธิสว่างคุณธรรม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ที่บริเวณริมลำห้วยแม่เหยี่ยน ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.พะเยา โดยกลุ่มชาวบ้านระบุว่า ต้นตะเคียนทองดังกล่าว เป็นต้นไม้ซึ่งอยู่นอกเขตโฉนดที่ดินของนางปราณี ดังนั้น การกระทำดังกล่าวจึงถือว่าเป็นการตัดไม้ทำลายป่าผิดกฎหมาย
ขณะที่ นางปราณี ระบุว่า ได้ทำเรื่องขออนุญาตทาง ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพะเยา (ทสจ.พะเยา) แล้ว โดยได้รับการยืนยันว่าเป็นต้นไม้ที่เจ้าของสามารถตัดโค่นได้เลยไม่ผิดกฎหมาย หากต้นไม้นั้นอยู่ในโฉนดที่ดินจริง
ซึ่ง นางปราณี ก็มีหลักฐานโฉนดที่ดินเลขที่ 45231 ท้องที่ หมู่ที่ 7 ต.บ้านใหม่ มาแสดงยืนยันกับทาง สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพะเยา ด้วย ว่า ต้นตะเคียนทอง ได้อยู่ในโฉนดที่ดินของตนเอง
ขณะที่ นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งนี้ในชั้นต้นรองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ระบุว่า ได้มีการตัดโค่นต้นตะเคียนทองจริง ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้
เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด เข้าตรวจสอบรังวัดว่าต้นไม้ดังกล่าว อยู่ในพื้นที่โฉนดที่ดินที่ตามที่เจ้าของกล่าวอ้างหรือไม่ ทั้งนี้ หากอยู่ในโฉนดที่ดินจริง ก็ถือว่าเป็นทรัพย์สินของเจ้าของบนที่ดินผืนดินนั้น ไม่ผิดกฎหมาย สามารถตัดโค่นได้เลย แต่หากอยู่นอกโฉนด และเป็นที่สาธารณะ ก็จะมีความผิดตามกฎหมายในการตัดไม้ทำลายป่า เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้เลย
อย่างไรก็ตาม จะต้องรอฟังผลการตรวจสอบและรังวัดของเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดก่อน ซึ่งคาดว่าจะทราบผลภายในวันสองวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จนถึงขณะนี้ ยังมีกลุ่มชาวบ้านใน ต.บ้านใหม่ ได้ผลัดเวรกันเฝ้าต้นไม้ตะเคียนทอง ตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการขนย้ายต้นตะเคียนทองออกนอกพื้นที่ โดยชาวบ้าน บอกว่า จะไม่มีการชักลากต้นตะเคียนทองออกนอกพื้นที่โดยเด็ดขาด เพราะชาวบ้านมั่นใจว่า ต้นตะเคียนทองอยู่นอกโฉนดที่ดิน และเป็นพื้นที่สาธารณะ ทั้งยังเป็นต้นไม้ตะเคียนทองอายุ 200 ปี ที่ชาวบ้านบูชามาช้านาน โดยชาวบ้านจะรอจนกว่าทางจังหวัดตรวจสอบแล้วเสร็จ และจะปรึกษากันอีกทีว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
วันนี้ (11 ก.พ.) หลังจากกลุ่มชาวบ้าน ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.พะเยา เข้าปิดล้อมต้นตะเคียนทอง อายุกว่า 200 ปี ที่เจ้าของ คือ นางปราณี เจริญทวี อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 5 ม.5 ต.ตะปอน อ.ขลุง จ.จันทบุรี ได้ทำการตัดโค่นเพื่อบริจาคให้มูลนิธิสว่างคุณธรรม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ที่บริเวณริมลำห้วยแม่เหยี่ยน ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.พะเยา โดยกลุ่มชาวบ้านระบุว่า ต้นตะเคียนทองดังกล่าว เป็นต้นไม้ซึ่งอยู่นอกเขตโฉนดที่ดินของนางปราณี ดังนั้น การกระทำดังกล่าวจึงถือว่าเป็นการตัดไม้ทำลายป่าผิดกฎหมาย
ขณะที่ นางปราณี ระบุว่า ได้ทำเรื่องขออนุญาตทาง ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพะเยา (ทสจ.พะเยา) แล้ว โดยได้รับการยืนยันว่าเป็นต้นไม้ที่เจ้าของสามารถตัดโค่นได้เลยไม่ผิดกฎหมาย หากต้นไม้นั้นอยู่ในโฉนดที่ดินจริง
ซึ่ง นางปราณี ก็มีหลักฐานโฉนดที่ดินเลขที่ 45231 ท้องที่ หมู่ที่ 7 ต.บ้านใหม่ มาแสดงยืนยันกับทาง สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพะเยา ด้วย ว่า ต้นตะเคียนทอง ได้อยู่ในโฉนดที่ดินของตนเอง
ขณะที่ นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งนี้ในชั้นต้นรองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ระบุว่า ได้มีการตัดโค่นต้นตะเคียนทองจริง ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้
เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด เข้าตรวจสอบรังวัดว่าต้นไม้ดังกล่าว อยู่ในพื้นที่โฉนดที่ดินที่ตามที่เจ้าของกล่าวอ้างหรือไม่ ทั้งนี้ หากอยู่ในโฉนดที่ดินจริง ก็ถือว่าเป็นทรัพย์สินของเจ้าของบนที่ดินผืนดินนั้น ไม่ผิดกฎหมาย สามารถตัดโค่นได้เลย แต่หากอยู่นอกโฉนด และเป็นที่สาธารณะ ก็จะมีความผิดตามกฎหมายในการตัดไม้ทำลายป่า เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้เลย
อย่างไรก็ตาม จะต้องรอฟังผลการตรวจสอบและรังวัดของเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดก่อน ซึ่งคาดว่าจะทราบผลภายในวันสองวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จนถึงขณะนี้ ยังมีกลุ่มชาวบ้านใน ต.บ้านใหม่ ได้ผลัดเวรกันเฝ้าต้นไม้ตะเคียนทอง ตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการขนย้ายต้นตะเคียนทองออกนอกพื้นที่ โดยชาวบ้าน บอกว่า จะไม่มีการชักลากต้นตะเคียนทองออกนอกพื้นที่โดยเด็ดขาด เพราะชาวบ้านมั่นใจว่า ต้นตะเคียนทองอยู่นอกโฉนดที่ดิน และเป็นพื้นที่สาธารณะ ทั้งยังเป็นต้นไม้ตะเคียนทองอายุ 200 ปี ที่ชาวบ้านบูชามาช้านาน โดยชาวบ้านจะรอจนกว่าทางจังหวัดตรวจสอบแล้วเสร็จ และจะปรึกษากันอีกทีว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
