ทหารจี้ “ผู้ว่าฯ” คุมเข้มแรงงานเขมรแฝงเป็นสายลับ-ชี้เป้าที่ตั้งกำลังพล อาวุธหนักไทย

ศรีสะเกษ - ทหารจี้ผู้ว่าฯ คุมเข้มแรงงานต่างด้าว “เขมร” หวั่นทหารกัมพูชาแฝงตัวเป็นสายลับชี้พิกัดฐานที่ตั้งกำลังพล-อาวุธหนัก - ความเคลื่อนไหวทหารไทย เผยจากการดักฟังวิทยุฝ่ายตรงข้าม พบพิรุธมีคนคอยชี้เป้าชัดเจน ระบุทหารเขมรยิงปืนใหญ่ถล่ม ร.ร.ภูมิซรอลวิทยา-ที่ทำการ อบต.เสาธงชัย แม่นยำไม่ใช่เรื่องปกติแน่นอน

ช่วงเย็นวันนี้ (6 ก.พ.) แหล่งข่าวทหารในเขตพื้นที่ชายแดนเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า จากการปะทะกัน 2 ครั้งที่ผ่านมาเชื่อว่าอาจมีทหารเขมรแฝงตัวเข้ามารับจ้างใช้แรงงานในฝั่งประเทศไทย โดยเฉพาะมารับจ้างกรีดยางพารา ตามสวนยางที่อยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เนื่องจากค่าจ้างแรงงานถูกกว่าคนไทยมาก เจ้าของบางรายสวนยาง70-80 ไร่ก็ไม่ยอมพาไปแจ้งลงทะเบียนคนงานต่างด้าว ซึ่งสวนยางหลายแห่งอยู่ติดฐานปฏิบัติการทหารไทยเลยก็มี เป็นไปได้ว่าแรงงานเหล่านี้อาจเป็นสายลับคอยชี้พิกัดตำแหน่งที่ตั้งอาวุธหนักของเราให้กับกัมพูชาได้ เพราะจากการดักฟังวิทยุฝ่ายตรงข้ามมักจะรู้ความเคลื่อนไหวเราหมดว่าเราเคลื่อนกำลังไปจุดไหน ตั้งอาวุธหนัก เช่น ปืนใหญ่ หรือรถถังไว้ตำแหน่งใดบ้าง เขารายงานผู้บังคับบัญชาถูกต้องหมดเลย

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า วันเกิดเหตุปะทะครั้งแรก วันที่ 4 ก.พ. ระหว่างที่ทหารกัมพูชาเปิดฉากยิงปืนใหญ่เข้ามาตกฝั่งไทย จากการดักฟังวิทยุเขาพูดอยู่ 2 คำหลักๆ คือ “เตราเฮ็ยยๆ” กับ “ดะตีสๆ” คือ “ถูกแล้วๆ” กับ “ซ้ำอีกๆ” หากไม่มีคนชี้เป้าหรือบอกพิกัดที่ลูกปืนใหญ่ตกเขาจะรู้ได้อย่าไรว่ายิงถูกไม่ถูก ต้องซ้ำไม่ซ้ำ เช่น กรณีโรงเรียนภูมิซรอลวิทยา กับที่ทำการ อบต.เสาธงชัย ที่ถูกปืนใหญ่กัมพูชาตกใส่นั่นไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน ต้องมีสายลับฝ่ายเขาไปมาร์กพิกัดจีพีเอสให้เขาไว้แล้ว

“จึงอยากเรียกร้องไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดที่อยู่ติดแนวชายแดน ให้มีคำสั่งไปยังนายอำเภอ และนายอำเภอให้กำชับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้านที่อยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ให้เคร่งครัดเรื่องการลงทะเบียนแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา ที่เข้ามารับจ้างขายแรงงานตามตะเข็บชายแดนเพราะเรื่องนี้ ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ที่ไม่ควรละเลย” แหล่งข่าวกล่าว