กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์ วันนี้ เกี่ยวกับเหตุการณ์ทหารไทยปะทะทหารกัมพูชาช่วงบ่ายวานนี้ โดยระบุเป็นภาษาอังกฤษว่า เมื่อบ่ายวันที่ 4 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 15.20 น. ทหารกัมพูชาเปิดฉากยิงใส่ฐานที่มั่นของเจ้าหน้าที่ทหารไทยที่ประจำการอยู่ใกล้ภูมะเขือ ซึ่งเป็นดินแดนของประเทศไทย โดยใช้ปืนใหญ่ไร้แรงสะท้อน นอกจากนี้ เวลา 16.20 น.วันเดียวกัน ทหารกัมพูชายังได้ยิงปืนเข้าใส่พื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหาร และบริเวณใกล้เคียงฐานที่มั่นของเจ้าหน้าที่ทหารไทย ใกล้ผามออีแดง ซึ่งอยู่ในเขตแดนประเทศไทยเช่นเดียวกัน ขณะที่ได้มีกระสุนปืนใหญ่อีกหลายลูกที่ยิงมาจากทหารฝ่ายกัมพูชา ตกเข้าไปในหมู่บ้านภูมิซรอล ใน จ.ศรีสะเกษ ของประเทศไทย ซึ่งอยู่ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 5 กิโลเมตร อีกด้วย
ขณะที่เหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้พลเรือนไทยรายหนึ่งเสียชีวิต และเจ้าหน้าที่ทหารอีก 6 นาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 7 หลังคาเรือน ส่วนประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวอีกกว่า 3,000 คน ต้องเร่งอพยพออกจากพื้นที่ ซึ่งการโจมตีจากฝ่ายกัมพูชาดังกล่าวถือว่าเป็นการกระทำที่รุกรานและละเมิดอำนาจอธิปไตยของประเทศไทยอย่างที่ชัดเจน ประเทศไทยไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากการตอบโต้ตามสิทธิ์
อย่างไรก็ตาม ยังยืนยันว่า ต้องการแก้ไขข้อพิพาทต่างๆ ที่เกิดขึ้นโดยสันติวิธี แต่ก็ต้องสงวนสิทธิ์ในการปกป้องอธิปไตยของตนเองไว้ด้วยเช่นเดียวกัน
ขณะที่เหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้พลเรือนไทยรายหนึ่งเสียชีวิต และเจ้าหน้าที่ทหารอีก 6 นาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 7 หลังคาเรือน ส่วนประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวอีกกว่า 3,000 คน ต้องเร่งอพยพออกจากพื้นที่ ซึ่งการโจมตีจากฝ่ายกัมพูชาดังกล่าวถือว่าเป็นการกระทำที่รุกรานและละเมิดอำนาจอธิปไตยของประเทศไทยอย่างที่ชัดเจน ประเทศไทยไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากการตอบโต้ตามสิทธิ์
อย่างไรก็ตาม ยังยืนยันว่า ต้องการแก้ไขข้อพิพาทต่างๆ ที่เกิดขึ้นโดยสันติวิธี แต่ก็ต้องสงวนสิทธิ์ในการปกป้องอธิปไตยของตนเองไว้ด้วยเช่นเดียวกัน