ชาวนาพิจิตรเริ่มเปิดศึกแย่งน้ำกลางหน้าแล้งแล้วแถมส่อเค้ารุนแรงขึ้นอีก

พิจิตร - เกษตรกรชาวนาพิจิตร เริ่มเปิดศึกแย่งน้ำกันแล้ว โดยเฉพาะพื้นที่สากเหล็ก ร้อนถึงผู้นำชุมชนต้องออกแรงหย่าศึก จัดเวรให้สูบน้ำแบบวันเว้นวัน

นายประทิว แก้วจันทร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าเยี่ยม อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร เปิดเผยถึงปัญหาภัยแล้งที่ส่งผลให้ลูกบ้านถึงกับทะเลาะเบาะแว้ง และเปิดศึกแย่งน้ำทำนาปรัง ว่า ขณะนี้ชาวนาใน ต.ท่าเยี่ยม มีการทำนาปรังประมาณ 2 พันไร่ ซึ่งต่างต้องอาศัยน้ำในคลองสากเหล็ก-บ้านมุง และต้องแย่งกันสูบน้ำจากอ่างเก็บน้ำ ที่มีพื้นที่กักเก็บน้ำเกือบ 100 ไร่ จนน้ำเกือบแห้งถึงก้นสระแล้ว

ดังนั้น ชาวนาบางคนจึงใช้วิธีเอากระสอบทรายไปขวางลำคลองกักน้ำไปเป็นสมบัติส่วนตน จนถึงกับทะเลาะกัน ล่าสุด ความบาดหมางดังกล่าว ต้องให้ผู้นำชุมชนเข้าเจรจาสงบศึกแย่งน้ำ โดยขอให้ผลัดกันสูบน้ำแบบวันเว้นวัน

“ต้นข้าวนาปรังขณะนี้อายุได้ 30-45 วัน จึงเป็นช่วงที่ข้าวต้องการน้ำมาก แต่เมื่อมาเจอภัยแล้งขณะนี้จึงยังไม่มีแนวทางการช่วยเหลือ ซึ่งก่อนหน้านี้ อบต.ก็ทำได้แค่ช่วยสนับสนุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการสูบน้ำเพื่อทำนาปรังเท่านั้น”

ส่วนในอนาคตแนวทางแก้ไขแบบยั่งยืน ได้ทำโครงการขอขุดแก้มลิง เพื่อกักเก็บน้ำในเขตหมู่ 1 ในพื้นที่ 9 ไร่ งบประมาณ 5 ล้านบาทเศษ มาหลายปีแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือจึงทำให้ทุกหน้าแล้งต้องขาดแคลนน้ำ แล้วชาวบ้านก็เปิดศึกแย่งน้ำกันเช่นนี้ทุกปี โชคยังดีที่ต่างฝ่ายต่างยังมีสติ จึงไม่มีการใช้กำลัง หรือ รบราฆ่าฟันกัน