ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ญาติธรรมหลวงตามหาบัว ยังเดินทางกราบสังขารหลวงตาที่วัดป่าบ้านตาด ไม่ขาดสาย ดาราดัง “สรพงษ์ ชาตรี” เผย แม้หลวงตาละสังขารไปแล้ว แต่ธรรมะคำสอนของท่านมีค่ายิ่งที่ต้องนำไปปฏิบัติเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต หลวงตาต้องการให้สั่งสมบุญกันให้มากๆ เมื่อบุญอยู่ในจิต ก็จะคิดดีทำดี มีเมตตา ความสงบสุขก็จะเกิดขึ้นเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศญาติธรรม ที่เดินทางไปกราบสังขารหลวงตามหาบัว ที่วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง โดยศาลาใหญ่หลังใหม่ด้านหน้าวัดได้ปรับให้เป็นที่พักชั่วคราวสำหรับญาติโยมที่มาพักค้าง บ้างนำเต็นท์มากาง แต่ส่วนใหญ่จะปูเสื่อนอน
ขณะที่ช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ (1 ม.ค.) เวลาประมาณ 15.00 น.นายกรีพงษ์ เทียมเศวต หรือนายสรพงษ์ ชาตรี ดาราชื่อดัง น.ส.ดวงเดือน จิไธสงค์ ภรรยา อดีตรองนางสาวไทย และคณะ ก็ได้เดินทางมากราบสังขารหลวงตามหาบัวเช่นกัน
นายสรพงษ์ เปิดเผยว่า รู้สึกเสียดายที่หลวงตาละสังขาร แต่ถือเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่สิ่งสำคัญที่หลวงตาทิ้งไว้ คือ พระธรรมคำสั่งสอนที่ชาวพุทธทั้งหลายอย่าง เราๆ สามารถนำไปประพฤติปฏิบัติต่อได้ไม่ดับสูญ ทำให้ชีวิตอยู่ในศิลในธรรมเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
หลวงตาเป็นที่พึ่งทางใจของพี่น้องชาวพุทธ คำเทศนาสั่งสอนของท่านมีค่ามาก เมื่อหลวงตายังอยู่ทุกคนมีความสุขใจ แต่เมื่อท่านละสังขารไปแล้วเราก็ต้องไม่ลืมเทศนาธรรมของท่าน ต้องนำไปปฏิบัติ หลวงตาท่านบอกเสมอว่าให้ทุกคนสั่งสมบุญให้มากๆ เมื่อบุญอยู่ในจิต ก็จะคิดดีทำดี มีเมตตา ความสงบสุขก็จะเกิดขึ้นเอง
นายสรพงษ์ เล่าต่อว่า ครั้งล่าสุดที่ได้มีโอกาสกราบหลวงตาที่วัดป่าบ้านตาด ก่อนที่ท่านจะละสังขาร คือ หลังจากที่ท่านกลับจากรักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลศิริราช และในโอกาสเดียวกันนั้น ก็ได้กราบหลวงพ่อ หรือหลวงปู่บุญมีด้วย ซึ่งหลวงปู่บุญ มีบอกว่า “หลวงตากำลังชั่งจิตว่าจะละสังขาร หรือจะอยู่สงเคราะห์โลกต่อ” ที่ผ่านมาหลวงตาท่านสงเคราะห์โลกไว้มากมายผ่านโครงการต่างๆ
โดยเฉพาะการสร้างโรงพยาบาลและโครงการผ้าป่าทองคำช่วยชาติ โครงการต่างๆเหล่านี้พวกเราญาติโยมที่มีกำลังต้องช่วยกันต่อไปเพื่อให้สมเจตนาของหลวงตาท่าน
สำหรับศาลาการเปรียญไม้หลังนี้หลังที่เรามากราบสังขารท่าน หลวงตาเคยบอกว่าอยากจะช่วยกันอนุรักษ์ไว้ แม้จะเป็นศาลาไม้เก่าๆ แต่มีค่าประเมินไม่ได้ เพราะเป็นสถานที่สถิตรอยเท้าของหมู่เทพเทวดา พระราชา และพระบรมวงศานุวงศ์ ไม่อยากให้มีการเปลี่ยนแปลง