อุดรธานี - เตรียมสร้างเมรุเผาหลวงตามหาบัว 5 มี.ค.นี้ รูปแบบตัวเมรุทางสูง 3 เมตร มี 3 ชั้น แต่ละชั้นสูง 1 เมตร มีฐานกว้างประมาณ 26-40 เมตร และบนยอดสุดจะเป็นกลดกว้าง 8 เมตร คณะสงฆ์ย้ำก่อสร้างแบบเรียบง่ายแต่ให้สมเกียรติกับหลวงตามหาบัว ที่เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้ใหญ่ที่มีประชาชนศรัทธา นับถือทั่วประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากวัดป่าบ้านตาด อ.เมืองอุดรธานี วันนี้ (31ม.ค.) จากการประชุมของคณะกรรมการจัดงานศพพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ซึ่งมีพระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก คณะกรรมการฝ่ายสงฆ์ และฝ่ายจังหวัด ประกอบด้วย นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พลตรี ศักดิ์ศิลป์ กลั่นเสนาะ รองแม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ต.บุญจันทร์ นวลสาย นายอิทธิพล ตรีวัฒน์สุวรรณ นายกเทศมนตรีนครอุดร และเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุดรธานี เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ที่กุฏิของหลวงตามหาบัว ภายในวัดป่าบ้านตาด
ต่อมาเวลาประมาณ 11.30 น.พระอาจารย์อินถวย สันตุสสโก และ นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี และคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องได้เดินทางออกไปตรวจสถานที่บริเวณลานจอดรถหน้าศาลาการเปรียญหลังใหญ่หน้าวัด ซึ่งการเตรียมการก่อสร้างเมรุสำหรับเผาศพหลวงตามหาบัว ได้มอบหมายให้สำนักการช่างเทศบาลนครอุดรธานี เป็นผู้รับผิดชอบในการก่อสร้างทั้งหมด
นายสำเริง สัมฤทธิ์ ผอ.สำนักการช่างเทศบาลนครอุดรธานี บอกว่า รูปแบบของตัวเมรุทางคณะกรรมการฝ่ายสงฆ์ได้ทำการร่างแบบให้กับทางสำนักการช่างฯเรียบร้อยแล้ว โดยกำหนดให้มีความสูง 3 เมตร มี 3 ชั้น แต่ละชั้นสูง 1 เมตร มีฐานกว้างประมาณ 26-40 เมตร และบนยอดสุดจะเป็นกรดกว้าง 8 เมตร มีการกำหนดว่าให้ก่อสร้างแบบเรียบง่ายแต่ให้สมเกียรติกับหลวงตามหาบัวที่เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้ใหญ่ที่มีประชาชนศรัทธา นับถือทั่วประเทศ โดยทุกส่วนจะร่วมกันทำการก่อสร้าง และคาดว่า จะสามารถก่อสร้างให้เสร็จแล้วทันในการพระราชทานเพลิงศพของหลวงตามหาบัว ในวันที่ 5 มีนาคม 2554
พระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก กล่าวว่า บริเวณลานจอดรถหน้าศาลาใหญ่ภายนอกวัดป่าบ้านตาดนี้จะทำการก่อสร้างให้เป็นเมรุ ซึ่งคณะกรรมการทั้งผ่ายสงฆ์และคณะลูกศิษย์ก็มีความเห็นพร้องต้องกัน ซึ่งเมรุนี้จะทำการก่องสร้างห่างจากศาลาใหญ่ประมาณ 50 เมตร โดยภายในศาลาจะเป็นให้ 2 ส่วน คือ ส่วนสำหรับคณะสงฆ์และสำหรับฆราวาส โดยรูปแบบเมรุจะสร้างในรูปแบบที่เรียบง่ายแต่ก็อยู่ในระบบของครูบารอาจารย์ ซึ่งจะคล้ายกับพิธีพระราชทานศพของหลวงปู่ฝั่น
สำหรับวันเวลานั้นทางที่ประชุมได้คิดเอาไว้ว่า น่าจะเป็นวันที่ 5 มีนาคม หรือ 12 มีนาคม 2554 ที่จะถึงนี้ แต่ที่ประชุมก็ยังไม่ตกลงวันที่แน่นอน เพราะยังต้องขึ้นอยู่กับทางสำนักพระราชวังอีกทางหนึ่ง แต่ทางฝ่ายคณะสงฆ์ก็อยากจะมีพิธีขึ้นในวันที่ 5 มีนาคม มากกว่า