ไฟไหม้บ้านกลางดึกวอดทั้งหลังสูญกว่าล้าน บ.

กาฬสินธุ์- เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านใน อ.ยางตลาด กลางดึกวอดทั้งหลัง สูญ 1 ล้าน 5 แสนบาท เบื้องต้นสันนิษฐานไฟฟ้าลัดวงจร

วันนี้ (28 ม.ค.) เวลา 07.30 น.นายทวีศักดิ์ เจริญรัมย์ ผู้ใหญ่บ้านดอนกลอย หมู่ 6 ต.หนองอิเฒ่า อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ แจ้งว่าได้เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้าน นายคัมภี โสภานะ อายุ 51 ปี บ้านเลขที่ 102 หมู่ 6 ราษฎรบ้านดอนกลอย โดยระบุเกิดเพลิงไหม้เวลาประมาณ 24.00 น. ทำให้ทรัพย์สิน บ้านเรือน รวมทั้งฉางข้าว ถูกไฟเผาผลาญ มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 1 ล้าน 5 แสนบาท ที่ขณะนี้กำลังประสานทางอำเภอ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือ

นายทวีศักดิ์ เจริญรัมย์ ผู้ใหญ่บ้านดอนกลอย กล่าวว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่าได้เกิดเพลิงไหม้ที่บ้านหลังดังกล่าว โดยทีแรกได้ยินเหมือนเสียงระเบิดดังขึ้นที่ชั้นบนของตัวบ้าน ก่อนที่จะเห็นประกายไฟลุกพรึบขึ้น ประกอบกับช่วงนั้นลมหนาวกระโชกแรง

จึงทำให้เปลวเพลิงลุกโชน และลามไหม้ตัวบ้านที่สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง และลามไปไหม้ฉางข้าวที่อยู่ติดกันอย่างรวดเร็ว จึงได้วิทยุแจ้งขอความช่วยเหลือจากเทศบาลตำบลยางตลาด เพื่อนำรถบรรทุกน้ำเข้ามาฉีดสกัดไฟที่กำลังโหมไหม้ แต่เนื่องจากระยะทางห่างไกล และเส้นทางที่จะเข้าไปถึงบ้านหลังที่เกิดเพลิงไหม้คับแคบ กว่าที่รถดับเพลิงจะมาถึงใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

จึงไม่อาจดับเพลิงได้ทัน ได้แต่ฉีดสกัดไม่ให้ลามไหม้ไปยังบ้านเรือนหลังอื่นเท่านั้น

ด้าน นายคำภี โสภานะ กล่าวว่า ปกติตนกับภรรยาจะออกไปนอนเฝ้านา ขณะที่บ้านซึ่งเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูง ชั้นเดียว ปล่อยให้ลูกสาวกับหลานดูแล แต่เมื่อคืนนี้ ญาติในหมู่บ้านได้เสียชีวิต ลูกหลานจึงออกไปช่วยงานศพ ไม่มีใครเฝ้าบ้าน จึงเป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้ดังกล่าว

“รู้สึกตกทั้งเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะบ้านหลังนี้ เป็นสมบัติที่ได้จากการสะสมเงินทุน ที่กว่าจะได้มาต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายไปขายแรงงานที่ต่างประเทศครึ่งชีวิต ทั้งซาอุดีอาระเบีย คูเวต ไต้หวัน เพื่อจะได้มีบ้านเป็นเรือนตาย และให้ลูกหลานได้อยู่อาศัย มีหน้ามีตาทัดเทียมเพื่อนบ้าน แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อเพลิงได้ลุกไหม้ ทำให้ทรัพย์สินที่สะสมมาทั้งชีวิต ทั้งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ ข้าวในยุ้งฉาง ทรัพย์สินต่างๆ สูญหายไปพริบตา”

ด้าน นางบานศรี โสภานะ อายุ 49 ปี ภรรยา นายคำภี กล่าวทั้งน้ำตาว่า นอกจากนี้ ยังมีเงินสด ทองรูปพรรณ โดยเฉพาะผ้าไหมแพรวา ที่ตนรักและสะสมไว้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นสินค้าที่ขึ้นชื่อของจังหวัดกาฬสินธุ์ ตั้งใจจะสะสมเป็นมรดกให้ลูกหลาน ที่อุตส่าห์เก็บไว้ไม่ยอมขาย เมื่อเกิดเพลิงไหม้

จึงไม่ต่างสิ้นเนื้อประดาตัว เพราะเหลือเพียงเสื้อผ้าชุดเดียวติดกาย หัวใจก็แทบสลายเมื่อเห็นบ้านเรือนและข้าวของถูกไฟไหม้สูญหายหมด เหลือแต่เพียงตอเสาและเศษเถ้าถ่านเท่านั้น”