ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - โคราชเมืองใหญ่อีสานซ้อมแผนรับมือเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ หน่วยการบินทหารลพบุรี นำ เครื่องบินลำเลียง “47 ดี ชินุก” และเฮลิคอปเตอร์ร่วมซ้อมลำเลียงผู้ป่วยทางอากาศ ขณะประชาชนใกล้เคียงแตกตื่นเข้าใจผิดว่า เกิดเพลิงไหม้ใหญ่จริง
วันนี้ (26 ม.ค.) ที่สนามกีฬากลาเทศบาลนครนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายคล้าย เพชรสูงเนิน ประธานสภาเทศบาลนครนครราชสีมา เป็นประธานเปิดโครงการฝึกซ้อมแผนป้องกันอัคคีภัยในชุมชนแออัด และเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย ประจำปี 2554
โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, หน่วยกู้ภัย, โรงพยาบาล, ทหาร และ ตำรวจเข้าร่วมในการฝึกซ้อมครั้งนี้รวม 28 องค์กร ซึ่งได้นำเฮลิคอปเตอร์ แบบ 1 (ฮิวอี้) และ เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง แบบ 47 ดี (ชินุก : Chinook) จาก ศูนย์การบินทหารบก ลพบุรี เข้าร่วมฝึกซ้อมการลำเลียงผู้ป่วยทางอากาศด้วย
นอกจากนี้ พล.ต.ต่อศักดิ์ เหลืองตระกูล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 21 (มทบ.21) ค่ายสุรนารีกองทัพภาคที่ 2 , พ.อ.ธารวัฒน์ แสงอ่อน ผู้บังคับหน่วยบินทหารบกยุทธวิธีที่ 2 ศูนย์การบินทหารบกลพบุรี และ พ.อ.สิริพล ชินบุตร ผู้บังคับการกองบินสนับสนุนทั่วไป ศูนย์การบินทหารบกลพบุรี และผู้นำองค์กรเอกชนใน จ.นครราชสีมา ได้เข้าร่วมสังเกตการณ์ในการฝึกซ้อมครั้งนี้ด้วย
โดยได้จำลองเหตุการณ์สมจริง เกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งใหญ่ขึ้นภายในอาคารที่พักนักเรียน โรงเรียนกีฬาเทศบาลนคนครราชสีมา มีคนติดอยู่ภายในอาคารและได้รับบาดเจ็บจำนวนกว่า 30 คน เจ้าหน้าที่จึงระดมรถดับเพลิงจากเทศบาลนครนครราชสีมา และเทศบาล รวมถึง อวค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ข้างเคียงจำนวนกว่า 10 คัน เข้าทำการฉีดน้ำสกัดเพลิง แต่เพลิงยังคงโหมลุกไหม้อย่างรุนแรงและลุกลามไปยังอาคารข้างเคียงพร้อมมีเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เจ้าหน้าที่จึงประสานรถดับเพลิงของหน่วยทหารจาก มทบ.21 กองทัพภาคที่ 2 พร้อมรถกระเช้าเข้าช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่บน อาคาร เวลาผ่านไปนานกว่า 45 นาที จึงสามารถสกัดเพลิงไว้ได้ พร้อมลำเลียงผู้ป่วยออกจากอาคาร เพื่อส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาล ส่วนผู้ป่วยหนักเจ้าหน้าที่ได้ลำเลียงขึ้นเฮลิคอปเตอร์ และเครื่องบินลำเลียงชินุก ส่งรักษาที่โรงพยาบาล ทำให้ผู้บาดเจ็บได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ไม่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้แต่อย่างใด
นายคล้าย เพชรสูงเนิน ประธานสภาเทศบาลนครนครราชสีมา เปิดเผยว่า การฝึกซ้อมครั้งนี้มีผลเป็นที่น่าพอใจ ทุกหน่วยงานทำงานประสานกันได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นการเตรียมความพร้อมทางด้านทักษะ ประสบการณ์ให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการรับสถานการณ์กรณีเกิดอัคคีภัยขนาดใหญ่ และเพื่อเป็นการบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานของรัฐ องค์กร มูลนิธิ ที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและจัดการอัคคีภัยอย่างเป็นระบบ รวมถึงเพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ได้รับทราบถึงภารกิจ หน้าที่ ขั้นตอนและวิธีการในการปฏิบัติที่ถูกต้อง และมีความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน อย่างมีประสิทธิภาพ และให้ชุมชนมีความตระหนัก และเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมากยิ่งขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะทำการฝึกซ้อมประชาชนที่อยู่ในชุมชนใกล้เคียงต่างแตกตื่นตกใจ เนื่องจากหลายคนไม่ทราบว่ามีการซ้อมแผนดังกล่าว เข้าใจผิดว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่จริง ถึงกับวิ่งออกจากที่พักมามุงดูและโทรศัพท์แจ้งเพื่อนบ้าน ทำให้เกิดการชุลมุนเล็กน้อยก่อนจะทราบว่าเป็นการซ้อมแผนของเจ้าหน้าที่เหตุการณ์จึงสงบลง