ระนอง-สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนองล่มร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายปี 2554 189 ล้านบาท
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (25 ม.ค.54) ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง ได้มีการประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง สมัยวิสามัญ สมัยที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2554 เพื่อพิจารณาร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 มีนายสมควร ทองสุกใส ประธานสภา อบจ.ระนอง เป็นประธานการประชุม มีสมาชิกสภา อบจ. นายนภา นทีทอง นายก อบจ. คณะผู้บริหาร และผู้อำนวยการกองต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
โดยที่ประชุมได้พิจารณาร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 วงเงิน 189 ล้านบาท ในวาระที่ 1 ว่าจะรับหลักการหรือไม่ ซึ่งค้างการพิจารณามาจากการประชุมสมัยวิสามัญ สมัยที่ 5 เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2553 หลังจากมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบร่างงบประมาณแล้ว
โดยสมาชิกหลายคนได้อภิปรายว่าการจัดทำร่างงบประมาณหลายโครงการไม่ได้อยู่ในแผนพัฒนา 3 ปี ของ อบจ. ไม่ได้ระบุว่าแต่ละโครงการใช้เงินจากแหล่งใด เช่น เงินรายได้ หรือเงินอุดหนุนทั่วไป เป็นต้น ในขณะที่เจ้าหน้าที่งบประมาณซึ่งได้รับมอบหมายจากนายก อบจ.ระนอง ได้ชี้แจงว่า สาเหตุที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายละเอียดว่าใช้งบประมาณจากเงินรายได้หรือเงินอุดหนุน เพื่อให้สอดคล้องกับระบบบัญชีคอมพิวเตอร์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จนในที่สุดประธานการประชุมได้ขอมติต่อที่ประชุม ผลปรากฏว่า มีสมาชิกไม่รับหลักการ 11 เสียง และรับหลักการ 7 เสียง
นายสุภา ตัณฑะจินะ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง กล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากที่สมาชิกสภา อบจ. ลงมติไม่รับหลักการแห่งร่างข้อบัญญัติงบประมาณดังกล่าวแล้วจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 15 คน แบ่งเป็นฝ่ายบริหาร 7 คนและฝ่ายสภา 7 คนและประธาน 1 คน ถ้าหาตัวบุคคลที่เป็นประธานไม่ได้ต้องรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัด หาบุคคลภายนอกมาเป็นประธานเพื่อทำหน้าที่ประชุมในการปรับปรุง แก้ไข หรือยืนยันร่างงบประมาณให้เสร็จภายใน 15 วันหลังจากพิจารณาร่างงบประมาณเสร็จแล้วต้องรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลงนาม
เพื่อส่งกลับมาให้นายก อบจ.นำเสนอต่อสภา อบจ.ภายใน 7 วัน ถ้าเสนอไม่ทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องรายงานไปยังรัฐมนตรีว่ากระทรวงมหาดไทยเพื่อสั่งให้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพ้นจากตำแหน่ง แต่หาก นายก อบจ.เสนอร่างข้อบัญญัติงบประมาณต่อสภา อบจ.แล้ว ให้ สภา อบจ.พิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน หากสภา อบจ.พิจารณาไม่แล้วเสร็จภายในกำหนดหรือมีมติไม่เห็นชอบให้ตราข้อบัญญัตินั้น ให้ข้อบัญญัตินั้นตกไป และให้ใช้ข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายปีที่แล้วไปพลางก่อน ในกรณีเช่นว่านี้ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยยุบสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดต่อไป
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (25 ม.ค.54) ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง ได้มีการประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง สมัยวิสามัญ สมัยที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2554 เพื่อพิจารณาร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 มีนายสมควร ทองสุกใส ประธานสภา อบจ.ระนอง เป็นประธานการประชุม มีสมาชิกสภา อบจ. นายนภา นทีทอง นายก อบจ. คณะผู้บริหาร และผู้อำนวยการกองต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
โดยที่ประชุมได้พิจารณาร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 วงเงิน 189 ล้านบาท ในวาระที่ 1 ว่าจะรับหลักการหรือไม่ ซึ่งค้างการพิจารณามาจากการประชุมสมัยวิสามัญ สมัยที่ 5 เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2553 หลังจากมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบร่างงบประมาณแล้ว
โดยสมาชิกหลายคนได้อภิปรายว่าการจัดทำร่างงบประมาณหลายโครงการไม่ได้อยู่ในแผนพัฒนา 3 ปี ของ อบจ. ไม่ได้ระบุว่าแต่ละโครงการใช้เงินจากแหล่งใด เช่น เงินรายได้ หรือเงินอุดหนุนทั่วไป เป็นต้น ในขณะที่เจ้าหน้าที่งบประมาณซึ่งได้รับมอบหมายจากนายก อบจ.ระนอง ได้ชี้แจงว่า สาเหตุที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายละเอียดว่าใช้งบประมาณจากเงินรายได้หรือเงินอุดหนุน เพื่อให้สอดคล้องกับระบบบัญชีคอมพิวเตอร์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จนในที่สุดประธานการประชุมได้ขอมติต่อที่ประชุม ผลปรากฏว่า มีสมาชิกไม่รับหลักการ 11 เสียง และรับหลักการ 7 เสียง
นายสุภา ตัณฑะจินะ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง กล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากที่สมาชิกสภา อบจ. ลงมติไม่รับหลักการแห่งร่างข้อบัญญัติงบประมาณดังกล่าวแล้วจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 15 คน แบ่งเป็นฝ่ายบริหาร 7 คนและฝ่ายสภา 7 คนและประธาน 1 คน ถ้าหาตัวบุคคลที่เป็นประธานไม่ได้ต้องรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัด หาบุคคลภายนอกมาเป็นประธานเพื่อทำหน้าที่ประชุมในการปรับปรุง แก้ไข หรือยืนยันร่างงบประมาณให้เสร็จภายใน 15 วันหลังจากพิจารณาร่างงบประมาณเสร็จแล้วต้องรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลงนาม
เพื่อส่งกลับมาให้นายก อบจ.นำเสนอต่อสภา อบจ.ภายใน 7 วัน ถ้าเสนอไม่ทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องรายงานไปยังรัฐมนตรีว่ากระทรวงมหาดไทยเพื่อสั่งให้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพ้นจากตำแหน่ง แต่หาก นายก อบจ.เสนอร่างข้อบัญญัติงบประมาณต่อสภา อบจ.แล้ว ให้ สภา อบจ.พิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน หากสภา อบจ.พิจารณาไม่แล้วเสร็จภายในกำหนดหรือมีมติไม่เห็นชอบให้ตราข้อบัญญัตินั้น ให้ข้อบัญญัตินั้นตกไป และให้ใช้ข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายปีที่แล้วไปพลางก่อน ในกรณีเช่นว่านี้ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยยุบสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดต่อไป
