ประชดหัวขโมย! ชาวบ้านนำเศษผ้าทำรั้วไร่นา หลังลวดหนามถูกขโมยเกลี้ยง

กาฬสินธุ์ - วิบากกรรมคนกาฬสินธุ์นอกจากต้องเผชิญภัยหนาวที่รุนแรงทั้ง 18 อำเภอ แล้วยังต้องมานั่งเฝ้าระวังหัวขโมยที่จ้องขโมยทุกอย่างที่ขวางหน้า ล่าสุด ขโมยแม้กระทั่งลวดหนามที่ทำเป็นรั้วตามไร่มัน นาข้าวและพื้นที่การเกษตรจนเกลี้ยง บ้านเสียว ต.หัวงัว อ.ยางตลาด มีผู้เสียหายแล้วกว่า 10 ราย ด้านผู้เสียหายสุดทนหันเอาเศษผ้าทำรั้วกั้นแทน พร้อมเรียกร้องตำรวจท้องที่เร่งปราบปรามอย่างเร่งด่วน

ที่ จ.กาฬสินธุ์ ชาวบ้านในหมู่ที่ 2 บ้านเสียว ต.หัวงัว อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กำลังได้รับความเดือดร้อนนับสิบรายหลังลวดหนามที่ชาวบ้านนำมาใช้เป็นรั้วกั้นเขตแดน ป้องกันสัตว์เลี้ยงเข้าไปกินหรือทำลายผลผลิตทางการเกษตรตามไร่มันสำปะหลัง นาข้าว และพื้นที่การเกษตร ถูกหัวขโมยตระเวนขโมยจนเกลี้ยง ชาวบ้านบางรายซื้อลวดหนามมาทำรั้วใหม่นับสิบครั้งแต่ก็ถูกขโมยทุกครั้ง จนสุดที่จะทนหันไปใช้เศษผ้าสีสันสดใสมาทำเป็นรั้วแทน

นายสมร จำปานิล อายุ 68 ปี บ้านเลขที่ 54 หมู่ 2 บ้านเสียว ต.หัวงัว อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนเพิ่งปลูกมันสำปะหลังเป็นครั้งแรก เนื่องจากเห็นว่าราคาดี กิโลกรัมละ 3 บาท จึงใช้พื้นที่นาที่เคยปล่อยว่าง และเป็นทุ่งเลี้ยงสัตว์ในฤดูแล้ง ปรับเป็นแปลงปลูกมันสำปะหลังจำนวน 7 ไร่ ลงทุนทั้งปุ๋ย ค่าขนส่ง แรงงาน และซื้อลวดหนามล้อมกันสัตว์เลี้ยงบุกรุกกัดกิน

เฉพาะลวดหนามที่ใช้กั้นเป็นแนวรั้วก็หลายหมื่นบาท ถูกขโมยบ่อยเข้าก็สุดที่จะทนจึงต้องหาวิธีการแก้เคล็ด ซึ่งก็ได้ผลดีแถมประหยัดเงิน และยังเป็นที่สนใจของที่ผ่านไปมาด้วย

“ช่วงแรกก็นอนเฝ้า เพราะที่พักกลางแปลงมันสำปะหลังมีทั้งรถไถ เครื่องมือเครื่องใช้การเกษตรหลายอย่าง แต่พออากาศเย็นจัด นอนกลางทุ่งหนาวทรมาน จนบางคืนเป็นตะคริว กลัวนอนหนาวแข็งตายจึงต้องเข้าไปนอนในหมู่บ้าน พวกหัวขโมยจึงถือโอกาสลักลวดหนามไปหมด รวมมูลค่าความเสียหายนับหมื่นบาท”

เมื่อลวดหนามถูกขโมยไปทำให้สัตว์เลี้ยงของเพื่อนบ้านเข้ากัดกินมันสำปะหลังที่กำลังเจริญเติบโตเสียหาย จึงได้นำเศษผ้าหลากสีมาล้อมแทน ซึ่งผ้าเศษที่นำมาก็เป็นของที่อยู่ในครอบครัว หรือไม่ก็ไปขอตามร้านตัดเสื้อผ้า ซึ่งรั้วเศษผ้าทำขึ้นมาแรกๆ ก็หวังประชด แต่มาคิดดูอีกทีก็เหมือนกับการแก้เคล็ดให้เจ้าที่เจ้าทางเหมือนผูกผ้า 7 สีแก้บนอะไรทำนองนั้น

รั้วเศษผ้าสามารถกันสัตว์เข้าไปในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี และสามารถดึงดูดใจและเป็นที่สะดุดตาของคนที่ผ่านไปมา บางรายถึงกับจอดรถลงมาไต่ถามความเป็นมาทั้งวันทีเดียว

นายสมรยังกล่าวอีกว่า แม้ว่าปีนี้โจรขโมยข้าวเปลือกจะน้อยลงแต่โจรที่ตระเวนขโมยเหล็กหรือของมีค่าแบบนี้กำลังระบาดในหลายพื้นที่ก็อยากจะเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาดูแลปราบปรามและกวาดล้างให้หมดไปจากพื้นที่ เพราะทุกวันนี้ชาวบ้านลำบากมากพอแล้ว

ด้าน นายสมศักดิ์ ภูคม ผู้ใหญ่บ้านบ้านเสียว หมู่ 2 กล่าวว่า บริเวณแปลงมันสำปะหลังของนายสมร ผู้เสียหาย อยู่ในเขตรอยต่อระหว่าง 3 อำเภอ คือ อ.ยางตลาด อ.กมลาไสย และอ.ฆ้องชัย ซึ่งเป็นแหล่งรับซื้อของเก่าใหญ่ที่สุดใน จ.กาฬสินธุ์ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะติดตามของกลางคืน จึงได้ประกาศเตือนให้ชาวบ้านระมัดระวัง ประสานความร่วมมือกับตำรวจท้องที่ เข้มงวดกวดขัน เฝ้าระวังมิจฉาชีพ จะอาศัยช่วงอากาศหนาวตอนกลางคืน ออกตระเวนลักขโมยทรัพย์สิน ที่ขณะนี้เริ่มออกอาละวาด และมีชาวบ้านผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์แล้วกว่า 10 ราย