ตร.ภ.7 โชว์ผลงานจับกุมยาเสพติดเฉียด 2 แสนเม็ด

นครปฐม - ตำรวจภาค 7 รวบผู้ค้ายาเสพติดได้ของกลางเกือบ 2 แสนเม็ด ขณะตั้งจุดตรวจตามที่สายลับได้เบาะแส ผู้บัญชาการตำรวจภาค 7 ยันเดินหน้าปราบขบวนการยาสเพติดตามนโยบายรัฐบาล

วันนี้ (19 ม.ค.) เวลา 12.00 น.ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรภาค 7 อ.เมือง จ.นครปฐม พล.ต.ท.พงษสันต์ เจียมอ่อน ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกษร รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.พศิน นกสกุล ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ถาวร ขาวสนะอาด พ.ต.อ.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.วัฒนา พิมพ์อัฐ ผกก.สภ.เมืองนครปฐม พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาที่ลักลอบนำยาเสพติดเข้มาในพื้นที่ โดยได้ของกลางกว่า 2 แสนเม็ด

พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า ในการจับกุมยาเสพครั้งใหญ่รายนี้ เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ต้องการปราบปรามยาเสพติดที่แพร่ระบาดอย่างหนักในช่วงนี้ จึงได้มีการสั่งการให้มีการตรวจค้นเป้าหมายต้องสงสัย และตั้งด่านสกัดจุดตรวจในพื้นที่จังหวัดนครปฐม

โดยเมื่อวันที่ 18 มกราคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับ ว่า จะมีขบวนการค้ายาบ้าลักลอบนำยาเสพติดเพื่อส่งมอบให้ลูกค้าในพื้นที่จึงได้ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ภูธรจังหวัดนครปฐม และตำรวจภูธรภาค 7 ได้ตั้งจุดตรวจบริเวณสะพาน 1 ถนนสายพระประโทน อ.เมืองนครปฐม เพื่อติดตามบุคคลและรถยนต์ต้องสงสัย

กระทั่งเวลา 17.40 น.ของวันที่ 18 มกราคม ได้มีรถกระบะ ยี่ห้อนิสสัน ฟรอนเทีย สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บจ 6463 พัทลุง เป็นลักษณะใกล้เคียงกันจึงได้เรียกตรวจสอบ โดยพบมีนายวิรัญ ชูคำ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 ม.14 ต.โกม่วง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง เป็นผู้ขับขี่และมี น.ส.ลินดา ช่วยสมบูรณ์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 ม.14 14 ต.โกม่วง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง นั่งมาด้วย

จากนั้นจึงได้ตรวจค้นภายในรถพบยาบ้าถูกยัดใส่กระเป๋าสีดำ 2 ใบ มียาบ้ารวม 198,000 เม็ดและพบเงินสด อีก 20,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง จึงได้ยึดของกลางทั้งหมดเพื่อตรวจสอบ

พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน ผบช.ภ.7 กล่าวว่า ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้ง 2 รายในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้าไว้ในความครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฏหมายและส่งตัวให้พนักงานสอบสวนเจ้าของพื้นที่ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ยังจะมีการสอบในทางลับว่ายาบ้าทั้งหมดที่จะนำไปส่งนั้นมาจากกลุ่มขบวนการใดและส่งให้ใคร โดยจะมีการติดตามปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มขี้นต่อไป เนื่องจากช่วงนี้ยาเสพติดโดยเฉพาะยาบ้าและยาอีได้แพร่ระบาดในทุกพื้นที่อย่างหนัก ซึ่งทางตำรวจก็จะมีการติดตามปราบปรามต่อไป