อุบลราชธานี -จังหวัดอุบลราชธานี ส่งตัว 2 ชาวกัมพูชาหาของป่าที่เดินพลัดหลงเข้ามาในประเทศไทยเป็นอิสระ หลังศาลพิพากษาให้รอลงอาญาโทษจำคุกไว้ 2 ปี
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (13 ม.ค.) ที่เรือนจำกลางจังหวัดอุบลราชธานี นายประวัติ รัฐิรมย์ รอง ผวจ.ได้รับตัว นายฤทธิ์ พร อายุ 35 ปี และ นายแสน เรียนแตน อายุ 45 ปี ราษฎรชาวกัมพูชาจาก ต.จำปาสาน อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร ซึ่งถูกทหารไทยจับกุมตัวบนเทือกเขาพนมดงรัก บริเวณพรมแดนไทย-กัมพูชา เขตตำบลศรีวิเชียร อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.
โดยชาวกัมพูชาทั้งสอง ระบุว่า เข้ามาเก็บหาของป่ากับเพื่อน และเดินพลัดหลงเข้ามาในเขตประเทศไทย เบื้องต้นทั้งคู่ถูกแจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
ต่อมาวันนี้ ศาลจังหวัดเดชอุดม ได้มีคำพิพากษาให้จำคุกชาวกัมพูชาทั้ง 2 เป็นเวลา 2 เดือน ปรับ 2,500 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี แต่ได้ถูกคุมตัวระหว่างรอการพิพากษาจนครบค่าปรับตามศาลสั่งแล้ว จึงให้ปล่อยตัวชาวกัมพูชาทั้ง 2 เป็นอิสระในวันนี้
หลังได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำกลาง พ.อ.สรชัช สุทธิสนธ์ หัวหน้าหน่วยประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำพื้นที่ 1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มารับตัวนายฤทธิ์ และนายแสน นำตัวไปมอบให้กับ พล.ท.ซอร์ ทาวี รอง ผวจ.พระวิหาร ที่รอรับอยู่ที่ด่านผ่านแดนถาวรช่องชะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ในวันเดียวกัน
นายประวัติ รัฐิรมย์ รอง ผวจ.กล่าวว่า หลังชาวกัมพูชาทั้งคู่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัว นายอุม มารา ผวจ.พระวิหาร ได้ประสานขอความช่วยเหลือมายัง ผวจ.อุบลราชธานี เมื่อตรวจสอบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่และผู้ถูกจับทราบว่า เป็นการพัดหลงเข้ามาในเขตประเทศไทยจริง
จึงส่งตัวดำเนินคดีตามกระบวนการของศาล และผู้ต้องหาได้ถูกคุมตัวไว้เกินค่าปรับที่ศาลมีคำพิพากษา จึงได้รับกการปล่อยตัว เพื่อแสดงความจริงใจและสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นของทั้งสองประเทศต่อไป