แนะอุตฯ การ์เมนต์สกลนครรวมกลุ่มทำคลัสเตอร์ลดต้นทุน-รับการแข่งขัน

สกลนคร - จังหวัดสกลนครจัดงานการ์เมนต์แฟร์ โรงงานผู้ผลิตเครื่องนุ่งห่มออกร้านขายตรงผู้บริโภค เผยสกลฯแหล่งผลิตเสื้อผ้าขนาดใหญ่ดันเศรษฐกิจท้องถิ่นโตต่อเนื่อง ด้านประธานสภาอุตฯ แนะรวมกลุ่มเป็นคลัสเตอร์เพื่อลดต้นทุนผลิต พร้อมรับปากประสานความร่วมมืออุตฯ การ์เมนต์ใหญ่ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์-พัฒนาเทคโนโลยีการผลิต เตรียมรับการแข่งขันในเวทีโลก

นายชุนดม รักเพชรมณี ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสกลนคร เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในเรื่องการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ส่งผลให้หลายภาคส่วนหันมาระดมความเห็นจัดทำยุทธศาสตร์ เพื่อการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจ พร้อมทั้งวิจัยเรื่องขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศกันมากขึ้น สำหรับอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มของจังหวัดสกลนคร ถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ส่งผลต่อการขยายตัวเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัด

จังหวัดสกลนครเป็นพื้นที่ผลิตวัตถุดิบ การแปรรูปและจำหน่ายสินค้าสู่ตลาดภายในและต่างประเทศ และเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสนับสนุนการผลิตสินค้าเครื่องนุ่งห่ม

สภาอุตสาหกรรมจังหวัดสกลนครจึงเห็นความสำคัญ ในการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการด้านเครื่องนุ่งห่มได้นำเสนอสินค้าแก่ผู้บริโภคโดยตรง โดยกำหนดจัดงานการ์เมนต์แฟร์ขึ้นระหว่างวันที่ 9-16 ม.ค.นี้ มีผู้ร่วมแสดงสินค้า ทั้งจากโรงงานผู้ผลิตทั้งในจังหวัดสกลนครและต่างจังหวัดรวมกว่า 700 ร้านค้า

นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร กล่าวเสริมว่า การจัดงานการ์เมนต์แฟร์ในครั้งนี้ถือว่าเป็นความผลสำเร็จของสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสกลนคร ที่ได้นำเอาผลผลิตหรือผลิตภัณท์ทางด้านการ์เมนต์ออกมาเผยแพร่ให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบถึงกลุ่มธุรกิจประเภทนี้ เป็นการส่งเสริมและเป็นการยกระดับให้มีคุณภาพ เพราะสกลนครถือว่าเป็นจังหวัดที่มีการตัดเย็บเสื้อผ้าในรูปแบบอุตสาหกรรมมากที่สุดในประเทศไทย

ขณะที่ นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยพร้อมที่จะช่วยหาลู่ทางส่งเสริมให้ธุรกิจการ์เมนต์ในจังหวัดสกลนครเติบโตและพัฒนามากยิ่งขึ้น โดยจะประสานให้ผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดสกลนครเชื่อมโยงกับธุรกิจการ์เมนต์ในส่วนกลาง เพื่อให้เกิดเป็นธุรกิจที่ขนาดใหญ่ ระยะยาวจะช่วยให้อุตสาหกรรมผลิตเครื่องนุ่งห่มในสกลนครสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ โดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งถือว่าเป็นคู่แข่งทางธุรกิจในด้านการ์เมนต์ของไทย

นายพยุงศักดิ์กล่าวอีกว่า ผลการสำรวจความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทย ระบุว่า 60 เปอร์เซ็นต์ บอกว่าดี คงเหลือ 40 เปอร์เซ็นต์บอกว่า เศรษฐกิจในภาคอุตสาหกรรมยังคงชะลอตัวไม่แตกต่างกับปี 2553 ที่ผ่านมา ซึ่งคาดหวังว่าสถานการณ์การเมืองจะไม่พลิกผันอีก ซึ่งจะเป็นต้นเหตุให้สภาวะเศรษฐกิจยิ่งจะชะลอตัวกว่าปี 2553 ด้วยซ้ำไป ทางกลุ่มผู้ประกอบการคาดหวังว่า การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจปี 2554 หรือค่าจีดีพีจะอยู่ที่ 4-5 เปอร์เซ็นต์

ในด้านการส่งออกอยู่ที่ 10 เปอร์เซ็นต์ โดยยังมีความกังวลในประเด็นผลกระทบจากสถานการณ์ราคาน้ำมันมากที่สุด รองลงมา คือ อัตราแลกเปลี่ยน สภาวะเศรษฐกิจโลก สถานการณ์ทางการเมือง และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ตามลำดับ

ภาวะความกังวลที่เพิ่มขึ้นทั้งสถานการณ์ราคาน้ำมัน อัตราแลกเปลี่ยน สภาวะเศรษฐกิจโลก อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องเตรียมความพร้อม จะต้องรวมกลุ่มการทำธุรกิจในลักษณะคลัสเตอร์ เพื่อลดต้นทุนการผลิตเพื่อเตรียมรับกับการแข่งขันในตลาดโลก