ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผวจ.เชียงใหม่เรียกประชุมความคืบหน้าปัญหารุกกำแพงดิน ทุกฝ่ายแจงขณะนี้สั่งระงับก่อสร้างหมดแล้ว ด้านผู้ประกอบการรุดเคลียร์ด้วย ที่อิมพีเรียลแม่ปิงโอดแค่อยากทำให้สวยไม่ได้คิดรุกล้ำ ส่วนตรงเต้ยติ่มซำบอกเห็นที่ใกล้ๆ ทำตึกขายได้เลยเอาบ้าง
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า วันนี้ (10 ม.ค. ) ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมแก้ไขปัญหากรณีการก่อสร้างรุกล้ำแนวกำแพงดินโบราณเมืองเชียงใหม่ โดยมีตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เช่น ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ สำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ เทศบาลนครเชียงใหม่ สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น
ว่าที่ร้อยตรี ยงยุทธ เรืองภัทรกุล ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ กล่าวว่า การประชุมในวันนี้เป็นการติดตามผลการดำเนินงานตามมติของที่ประชุมพิจารณาแก้ไขปัญหากรณีเอกชนก่อสร้างอาคารบริเวณแนวกำแพง-คูเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 30 พ.ย.2553 ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้สั่งให้อาคารที่เป็นปัญหาทั้งสองจุดระงับการก่อสร้างแล้ว
ในการประชุมวันนี้ที่ผู้ประกอบการทั้งสองรายได้เข้าชี้แจงต่อที่ประชุม ถึงการก่อสร้างอาคารทั้งสองแห่ง ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้แจ้งต่อทุกฝ่ายว่า จะนำข้อมูลทั้งหมดเสนอต่อคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่าเชียงใหม่ ที่จะมีการจัดประชุมเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในวันที่ 18 ม.ค.นี้ และยืนยันว่าการพิจารณาเรื่องกำแพงดินจะว่ากันไปตามกฎหมาย ไม่มีการเข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
ด้านนายวิเศษ เพชรประดับ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ เผยว่า จากกรณีปัญหาการก่อสร้างรุกแนวกำแพงดินโบราณเมืองเชียงใหม่ที่เกิดขึ้นนั้น ในส่วนของศิลปากรนั้น เบื้องต้นได้มีการตรวจสอบข้อมูลและแจ้งให้เจ้าของระงับการก่อสร้างไปแล้ว
ส่วนคำสั่งให้รื้อถอนที่เป็นอำนาจของอธิบดีกรมศิลปากร ได้มีการนำเสนอเรื่องและข้อมูลให้พิจารณาแล้ว โดยล่าสุดทราบว่าอยู่ในขั้นตอนของฝ่ายกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ถึงเวลานี้ยังไม่มีหนังสือคำสั่งอย่างเป็นทางการออกมาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมครั้งนี้ได้มีการเชิญเอกชนทั้ง 2 ราย ที่เป็นเจ้าของโรงแรม และอาคารพาณิชย์ ที่ถูกระบุว่า ก่อสร้างรุกล้ำแนวกำแพงดินโบราณเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นโบราณสถาน มาให้ข้อมูลและชี้แจงกรณีการก่อสร้างดังกล่าว
ในรายของนางสาวเพ็ญสินี พรหมเศรณี เจ้าของอาคารบริเวณตรงข้ามโรงแรมอิมพีเรียล แม่ปิง ได้ให้ นายสุชาติ และ นางวรัญญา พรหมเศรณี บิดา-มารดาเข้าชี้แจงต่อที่ประชุมแทน ซึ่งทั้งคู่ระบุว่า อาคารดังกล่าวสร้างขึ้นเพื่อเป็นโรงแรม ไม่ใช่สถานบริการหรืออาบ อบ นวดแต่อย่างใด
ส่วนสาเหตุที่ทำการก่อสร้าง เนื่องจากเมื่อได้รับโอนโฉนดที่ดินจากเจ้าของเดิม คือ นายมณเฑียร ศรีสุโข ทราบว่า นายมณเฑียร ได้ขออนุญาตทำการปรับปรุงโรงแรมกับทางเทศบาลแล้ว จึงได้ดำเนินการปรับปรุงต่อ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้โรงแรมดูสวยงาม และเป็นระเบียบเรียบร้อย
สำหรับการก่อสร้างต่อเติม ในพื้นที่ส่วนที่คร่อมทับพื้นที่ให้เช่าของกรมธนารักษ์นั้น เป็นพื้นที่ที่ซื้อสิทธิการเช่ามาจากเจ้าของเดิมแล้ว จึงได้ทำการปรับปรุงควบคู่กันไปกับตัวอาคารโรงแรม
นายสุชาติ และ นางวรัญญา กล่าวในที่ประชุมว่า การก่อสร้างโรงแรมไม่ได้มีเจตนาที่จะรุกล้ำพื้นที่โบราณสถาน เพราะครอบครัวก็สืบเชื้อสายมาจากตระกูล ณ เชียงใหม่ ทราบดีว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นโบราณสถานที่สำคัญ แต่ที่ทำการปรับปรุงและต่อเติม ก็เพราะต้องการให้โรงแรมดังกล่าวมีความสวยงาม ช่วยสร้างความงดงามให้กับเมือง รวมทั้งต้องการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของพื้นที่แถบนี้ ซึ่งถูกมองว่าเป็นพื้นที่ค้าประเวณีและแหล่งเสื่อมโทรม อย่างไรก็ตาม หากราชการเห็นว่าการก่อสร้างต่อเติมผิดกฎหมาย ก็ยินดีปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการทุกประการ
ส่วนอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นครึ่ง บริเวณติดกับร้านเต้ยติ่มซำ ซึ่งเป็นของ นายวลัญช์ชัย เกียรตินิยมรุ่งนั้น นายวลัญช์ชัย กล่าวว่า ตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรมจากสื่อ มีการประโคมข่าวว่าอาคารพาณิชย์ของตน บุกรุกทำลายพื้นที่โบราณสถาน ทั้งๆ ที่ตนได้ซื้อที่ดินดังกล่าวมา เมื่อเห็นว่าในพื้นที่ใกล้เคียงมีการก่อสร้างอาคารพาณิชย์ในลักษณะคล้ายๆ กัน จึงได้ทำการก่อสร้างขึ้น โดยมีใบอนุญาตจากทางเทศบาลแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนจากเทศบาล ได้ชี้แจงว่า พื้นที่ดังกล่าวได้อนุญาตให้ก่อสร้างบ้านเพื่ออยู่อาศัย ความสูง 2 ชั้นเท่านั้น ไม่ได้อนุญาตให้ก่อสร้างอาคารพาณิชย์แต่อย่างใด
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า วันนี้ (10 ม.ค. ) ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมแก้ไขปัญหากรณีการก่อสร้างรุกล้ำแนวกำแพงดินโบราณเมืองเชียงใหม่ โดยมีตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เช่น ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ สำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ เทศบาลนครเชียงใหม่ สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น
ว่าที่ร้อยตรี ยงยุทธ เรืองภัทรกุล ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ กล่าวว่า การประชุมในวันนี้เป็นการติดตามผลการดำเนินงานตามมติของที่ประชุมพิจารณาแก้ไขปัญหากรณีเอกชนก่อสร้างอาคารบริเวณแนวกำแพง-คูเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 30 พ.ย.2553 ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้สั่งให้อาคารที่เป็นปัญหาทั้งสองจุดระงับการก่อสร้างแล้ว
ในการประชุมวันนี้ที่ผู้ประกอบการทั้งสองรายได้เข้าชี้แจงต่อที่ประชุม ถึงการก่อสร้างอาคารทั้งสองแห่ง ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้แจ้งต่อทุกฝ่ายว่า จะนำข้อมูลทั้งหมดเสนอต่อคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่าเชียงใหม่ ที่จะมีการจัดประชุมเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในวันที่ 18 ม.ค.นี้ และยืนยันว่าการพิจารณาเรื่องกำแพงดินจะว่ากันไปตามกฎหมาย ไม่มีการเข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
ด้านนายวิเศษ เพชรประดับ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ เผยว่า จากกรณีปัญหาการก่อสร้างรุกแนวกำแพงดินโบราณเมืองเชียงใหม่ที่เกิดขึ้นนั้น ในส่วนของศิลปากรนั้น เบื้องต้นได้มีการตรวจสอบข้อมูลและแจ้งให้เจ้าของระงับการก่อสร้างไปแล้ว
ส่วนคำสั่งให้รื้อถอนที่เป็นอำนาจของอธิบดีกรมศิลปากร ได้มีการนำเสนอเรื่องและข้อมูลให้พิจารณาแล้ว โดยล่าสุดทราบว่าอยู่ในขั้นตอนของฝ่ายกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ถึงเวลานี้ยังไม่มีหนังสือคำสั่งอย่างเป็นทางการออกมาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมครั้งนี้ได้มีการเชิญเอกชนทั้ง 2 ราย ที่เป็นเจ้าของโรงแรม และอาคารพาณิชย์ ที่ถูกระบุว่า ก่อสร้างรุกล้ำแนวกำแพงดินโบราณเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นโบราณสถาน มาให้ข้อมูลและชี้แจงกรณีการก่อสร้างดังกล่าว
ในรายของนางสาวเพ็ญสินี พรหมเศรณี เจ้าของอาคารบริเวณตรงข้ามโรงแรมอิมพีเรียล แม่ปิง ได้ให้ นายสุชาติ และ นางวรัญญา พรหมเศรณี บิดา-มารดาเข้าชี้แจงต่อที่ประชุมแทน ซึ่งทั้งคู่ระบุว่า อาคารดังกล่าวสร้างขึ้นเพื่อเป็นโรงแรม ไม่ใช่สถานบริการหรืออาบ อบ นวดแต่อย่างใด
ส่วนสาเหตุที่ทำการก่อสร้าง เนื่องจากเมื่อได้รับโอนโฉนดที่ดินจากเจ้าของเดิม คือ นายมณเฑียร ศรีสุโข ทราบว่า นายมณเฑียร ได้ขออนุญาตทำการปรับปรุงโรงแรมกับทางเทศบาลแล้ว จึงได้ดำเนินการปรับปรุงต่อ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้โรงแรมดูสวยงาม และเป็นระเบียบเรียบร้อย
สำหรับการก่อสร้างต่อเติม ในพื้นที่ส่วนที่คร่อมทับพื้นที่ให้เช่าของกรมธนารักษ์นั้น เป็นพื้นที่ที่ซื้อสิทธิการเช่ามาจากเจ้าของเดิมแล้ว จึงได้ทำการปรับปรุงควบคู่กันไปกับตัวอาคารโรงแรม
นายสุชาติ และ นางวรัญญา กล่าวในที่ประชุมว่า การก่อสร้างโรงแรมไม่ได้มีเจตนาที่จะรุกล้ำพื้นที่โบราณสถาน เพราะครอบครัวก็สืบเชื้อสายมาจากตระกูล ณ เชียงใหม่ ทราบดีว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นโบราณสถานที่สำคัญ แต่ที่ทำการปรับปรุงและต่อเติม ก็เพราะต้องการให้โรงแรมดังกล่าวมีความสวยงาม ช่วยสร้างความงดงามให้กับเมือง รวมทั้งต้องการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของพื้นที่แถบนี้ ซึ่งถูกมองว่าเป็นพื้นที่ค้าประเวณีและแหล่งเสื่อมโทรม อย่างไรก็ตาม หากราชการเห็นว่าการก่อสร้างต่อเติมผิดกฎหมาย ก็ยินดีปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการทุกประการ
ส่วนอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นครึ่ง บริเวณติดกับร้านเต้ยติ่มซำ ซึ่งเป็นของ นายวลัญช์ชัย เกียรตินิยมรุ่งนั้น นายวลัญช์ชัย กล่าวว่า ตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรมจากสื่อ มีการประโคมข่าวว่าอาคารพาณิชย์ของตน บุกรุกทำลายพื้นที่โบราณสถาน ทั้งๆ ที่ตนได้ซื้อที่ดินดังกล่าวมา เมื่อเห็นว่าในพื้นที่ใกล้เคียงมีการก่อสร้างอาคารพาณิชย์ในลักษณะคล้ายๆ กัน จึงได้ทำการก่อสร้างขึ้น โดยมีใบอนุญาตจากทางเทศบาลแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนจากเทศบาล ได้ชี้แจงว่า พื้นที่ดังกล่าวได้อนุญาตให้ก่อสร้างบ้านเพื่ออยู่อาศัย ความสูง 2 ชั้นเท่านั้น ไม่ได้อนุญาตให้ก่อสร้างอาคารพาณิชย์แต่อย่างใด
