สุราษฎร์ธานี - มรส.เร่งโครงการต้นแบบชุมชนในการบริหารจัดการขยะมูลฝอย เผย 5 วิธีจัดการขยะมูลฝอยอย่างมีประสิทธิภาพ ถูกสุขลักษณะ ยั่งยืน และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม
ผศ.ดร.ณรงค์ พุทธิชีวิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (มรส.) เปิดเผยว่า การที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีเติบโตอย่างรวดเร็ว นักศึกษาเพิ่มจำนวนขึ้นทุกปี จนขณะนี้มหาวิทยาลัยมีนักศึกษาทุกระบบรวมกว่า 20,000 คน กลายเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏที่มีจำนวนนักศึกษามากที่สุดในภาคใต้ และมากเป็นอันดับของประเทศ รองจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตและมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เมื่อรวมกับจำนวนอาจารย์และบุคลากรอีกกว่า 800 คนก็กลายเป็นตัวเลขของคนจำนวนมหาศาล เมื่อคนเพิ่มจำนวน สิ่งหนึ่งที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนคนก็คือขยะมูลฝอย
อธิการบดี มรส. กล่าวต่อว่า ขณะนี้มหาวิทยาลัยได้จัดโครงการต้นแบบชุมชนในการบริหารจัดการขยะมูลฝอยอย่างยั่งยืนขึ้น โดยคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้ทำการศึกษาวิจัยจนได้ข้อสรุปเป็นการเบื้องต้นในการบริหารจัดการขยะมูลฝอยอย่างมีประสิทธิภาพ ถูกสุขลักษณะ ยั่งยืนและสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับขยะมูลฝอยเหล่านี้ 5 แนวทางด้วยกัน ได้แก่
1. นำไปหมักเพื่อผลิตปุ๋ยอินทรีย์ เกษตรกรสามารถนำไปใช้ปรับปรุงคุณภาพดินหรือเป็นอาหารของพืชผักไม้ผลในสวนได้
2. ผลิตเป็นพลังงานทดแทน ด้วยการทำเป็นพลังงานเชื้อเพลิงอัดแท่ง
3. การนำขยะกลับไปใช้ประโยชน์ใหม่หรือรีไซเคิล (Re-cycle) และรียูส (Re-use) เช่น ขยะจำพวกแก้ว กระดาษ พลาสติก โลหะต่าง ๆ
4. นำขยะไปเป็นอาหารสัตว์ เช่น ขยะจำพวกเศษอาหาร ผัก ผลไม้ สามารถนำไปเลี้ยงสัตว์ได้ เช่น หมู วัว เป็ด ไก่ แพะ แกะ ปลา
และ 5. นำไปใช้ในการปรับปรุงพื้นที่ ซึ่งเป็นวิธีกำจัดขยะที่นิยมกันแพร่หลายในยุโรปและสหรัฐอเมริกา เนื่องจากสามารถกำจัดขยะได้โดยไม่ต้องคัดแยกขยะและสามารถปรับปรุงพื้นที่ให้เป็นพื้นที่ที่ดีมีประโยชน์ได้ เช่น ถมและปรับพื้นที่เป็นสนามเด็กเล่น สนามกีฬาหรือที่พักผ่อนหย่อนใจ เป็นต้น
“อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องทำควบคู่ไปกับการบริหารจัดการขยะมูลฝอยที่มีประสิทธิภาพก็คือการลดกิจกรรมที่ก่อให้เกิดขยะ เพราะจากการศึกษาพบว่าคนหนึ่งคนสามารถสร้างขยะได้ประมาณครึ่งกิโลกรัมต่อวัน หากเราทุกคนสามารถลดการสร้างขยะลงได้ การบริหารจัดการขยะก็จะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” อธิการบดี มรส.กล่าว
