ลำปาง - ผู้ว่าฯ ลำปางนั่งหัวโต๊ะ ระดมทุกหน่วยบูรณาการแก้ไขปัญหาขยะเร่ร่อน ลักลอบขนขยะมาทิ้งลำปาง เผยทำกันมานานนับ 10 ปี หลังเห็นโทษน้อยแค่จับ-ปรับ แล้วก็ปล่อย สั่งงัดข้อกฎหมายทุกตัวเล่นกันให้หลายจำ
รายงานข่าวจากจังหวัดลำปาง แจ้งว่า นายศุภกิจ บุญญฤทธิพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้เรียกประประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการลักลอบนำขยะมูลฝอยมาทิ้งโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อบูรณาการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฯลฯ ในการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเก็บขนและกำจัดขยะมูลฝอย และหามาตรการที่เด็ดขาดในการเอาผิดกับผู้ลักลอบนำขยะจากต่างถิ่นเข้ามาทิ้งในพื้นที่จังหวัดลำปาง เมื่อ 2 มี.ค.53 โดยมีผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมกว่า 300 คน
ทั้งนี้ ปัญหาการลักลอบนำขยะเข้ามาทิ้งในพื้นที่จังหวัดลำปาง มีมานับ 10 ปี ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนในพื้นที่จำนวนมาก เนื่องจากส่วนใหญ่จะดำเนินการในลักษณะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ และความปลอดภัย ที่ผ่านมาแม้จะใช้มาตรการทางด้านกฎหมายเข้าดำเนินการก็เป็นเพียงแค่จับแล้วนำมาเปรียบเทียบปรับก่อนที่จะปล่อยตัวและของกลางไป ทำให้ขบวนการเหล่านี้ไม่หลาบจำ ลักลอบขนขยะเข้ามาทิ้งในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางบอกอีกว่า ดังนั้น ต่อไปนี้มาตรการที่จะใช้เอาผิดกับผู้ลักลอบนำขยะเข้ามาทิ้งนั้น จะนำกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด อาทิ พ.ร.บ.ส่งเสริมรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 มาตรา 73 ห้ามมิให้ผู้ใดรับจ้างเป็นผู้ควบคุมหรือรับจ้างให้บริการบำบัดน้ำเสียหรือกำจัดของเสีย เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น บทกำหนดโทษ มาตรา 105 ผู้ใดรับจ้างเป็นผู้ควบคุมหรือรับจ้างให้บริการบำบัดน้ำเสียหรือกำจัดของเสียโดยไม่ได้รับใบอนุญาตตาม มาตรา 73 ต้องระวาง โทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกทั้งยังมี พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ.2535 พ.ร.บ.ที่ดิน มาดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิดอย่างจริงจังเด็ดขาดโดยที่จะไม่มีการละเว้น
ทั้งนี้ ได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้แจ้งข้อหาให้กับผู้กระทำผิดให้ชัดเจนก่อนจะส่งฟ้องด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลังได้ และวันที่ 4 มีนาคม 2553 อบจ.ลำปาง จะจัดเวทีประชาคมเรื่อง การก่อสร้างบ่อกำจัดขยะแบบครบวงจรของ อบจ.ลำปาง ซึ่งมีงบประมาณ กว่า600 ล้านบาท ที่มีปัญหาการต่อต้านจากประชาชนในพื้นที่ก่อสร้างอยู่ขณะนี้ด้วย
