xs
xsm
sm
md
lg

รถบัส IRPC ขนนักเรียนร่วมงานวันเด็ก โหม่งขอบทางด่วนบางนา เด็กเจ็บอื้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ฉะเชิงเทรา - รถบัสชุมชนสัมพันธ์ บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ ไออาร์พีซี (IRPC) ขนนักเรียนจากระยองนับร้อยชีวิต เดินทางร่วมกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ที่นครปฐม ซิ่งตามไล่กวดท้ายกัน จนเสียหลักโหม่งขอบทางด่วน บางนา-ตราด ทำเด็กนักเรียนเจ็บอื้อ 24 ราย ด้านตำรวจระบุคนขับประมาทชัด เหตุจากใช้ความเร็วสูง

วันนี้( 8 ม.ค.) เมื่อเวลา 04.30 น. พ.ต.ท.อนุเทพ โชคสมงาม พนักงานสอบสวน (สบ.3) จราจร สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ รถบัสปรับอากาศ เสียหลักพุ่งชนขอบทางด่วน บนถนนสายบางนา-ตราด ด้านฝั่งขาเข้ามุ่งหน้า กทม. ระหว่างหลัก กม.ที่ 52-53 พื้นที่ ม.3 ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นเด็กนักเรียนจำนวนหลายราย จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์บัสปรับอากาศ สีขาวคาดฟ้า ยี่ห้อ นิสสัน ยูดี ทะเบียน 30-0440 ระยอง ของบริษัท นิวนิตยาทัวร์ รอบตัวรถติดตราโลโก้ บริษัทไออาร์พีซี (IRPC) อยู่ในช่องทางด่วนด้านซ้าย สภาพด้านหน้าพุ่งชนติดอยู่กับขอบแท่งคอนกรีตของช่องทางด่วน สภาพด้านหน้าพังเสียหายยับเยิน กระจกด้านหน้า และบริเวณรอบตัวรถมีรอยแตกร้าวทั่วทั้งคัน โดยมีหน่วยกู้ภัยฯ ช่วยกันลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 17 ราย นำส่งไปยัง โรงพยาบาลบางปะกง 3 ราย โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 11 จำนวน 14 ราย ส่วนที่เหลือได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีกจำนวน 7 ราย

จากการสอบถาม น.ส.จิราภา อักโขวงค์ อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5/1 ซึ่งนั่งมาในรถคันเกิดเหตุ เล่าว่า รถคันดังกล่าว มีนายพิชัย ผลทวี อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/6 ม.4 ต.แกลง อ.เมือง จ.ระยอง เป็นคนขับ ได้เดินทางไปรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายออกจากโรงเรียนวัดไผ่ประดู่ ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. เพื่อเดินทางมุ่งหน้าไปร่วมกันจัดกิจกรรมวันเด็ก โดยจะไปเป็นพี่เลี้ยงแจกจ่ายสิ่งของ และจัดกิจกรรมเล่นเกมต่างๆ ให้แก่เด็กๆ รุ่นน้อง ในงานวันเด็กที่วัดอ้อน้อย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม

น.ส.จิราภา กล่าวว่า โดยมีนักเรียนพร้อมครูอาจารย์ ร่วมเดินทางไปในครั้งนี้จำนวนกว่า 100 คน ด้วยรถยนต์ตู้จำนวน 2 คัน รถบัส 2 คัน ก่อนเกิดเหตุระหว่างเดินทาง รถที่ร่วมขบวนตามกันมาได้ขับนำหน้าไปก่อนจนหายลับตา ทำให้รถคันหลังซึ่งเป็นคันเกิดเหตุ ถูกทิ้งท้าย จนทำให้คนขับได้พยายามรีบเร่งเครื่องยนต์ ขับตามมาด้วยความเร็วสูง เพื่อไล่กวดให้ทันท้ายขบวนรถคันที่นำหน้า จนมาถึงยังจุดเกิด ได้มีรถยนต์กระบะขับขวางทาง อยู่ในเลนซ้าย คนขับได้หักหลบไปทางเลนขวา จากนั้นได้โยกกลับมายังเลนซ้ายอีก เนื่องจากมีรถยนต์อีกคันขับขวางหน้าอยู่ที่เลนด้านขวา จึงทำให้รถเกิดเสียหลัก คนขับบังคับรถเอาไว้ไม่อยู่จึงพุ่งชนเข้ากับขอบทางด่วนดังกล่าว สำหรับรถคันที่ตนนั่งมานี้ มีนักเรียนระดับชั้น ม.5 นั่งมาทั้งหมด จำนวน 63 คน และมีอาจารย์ผู้ควบคุมรถมา 1 คน คือ นางนิตยา ศรีสวัสดิ์ อายุ 52 ปี ครูสอนคณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา ร่วมนั่งมาในรถด้วยพร้อมกับคนขับ รวมจำนวน 65 คน

"หนูเห็นเลขไมล์ที่หน้าปัดรถเข็มชี้วัดความเร็ว อยู่ที่ตัวเลข 120 กม./ชม. ขณะที่คนขับกำลังจะรีบเหยียบคันเร่ง เพื่อขับไล่ติดตามรถคันหน้าให้ทัน ก่อนที่คนขับจะขับรถโยกออกมาทางขวา และโยกมาทางซ้ายจนรถพุ่งชนเข้าที่ขอบทาง" น.ส.ศิรดา นิลเจริญ สาวน้อยวัย 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5/3 กล่าวระบุ ขณะนอนอยู่บนเตียงให้แพทย์ทำการรักษาพยาบาล ที่ รพ.จุฬารัตน์ 11

ด้าน พ.ต.ท.อนุเทพ กล่าวว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากความประมาทของคนขับที่ใช้ความเร็วสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ในขณะที่ไม่ชำนาญเส้นทาง จนรถเกิดเสียหลักควบคุมไม่อยู่ ซึ่งจะถูกแจ้งข้อหาดำเนินคดีในข้อหาขับรถยนต์สาธารณะโดยประมาท จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนเจ็บขณะนี้ที่ถูกส่งมายัง รพ.ทั้งสองแห่ง รวม 17 ราย มีอาการสาหัส 2 ราย คือใบหูขาด 1 ราย และเส้นเอ็นข้อมือขาดหนึ่งราย ส่วนรายอื่นๆ นั้น ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลฟกช้ำ บวมปูด และถลอกตามร่างกาย ซึ่งหากมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสเพิ่มขึ้นอีก ก็จะแจ้งข้อหาขับรถประมาทจนทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่งฟ้องศาลดำเนินคดีต่อไป

ขณะเดียวกัน เด็กๆ นักเรียน ที่นั่งมาในรถคันเกิดเหตุ และรอดมาจากการได้รับบาดเจ็บ ต่างพากันใช้กล้องถ่ายรูป และโทรศัพท์มือถ่ายภาพรถยนต์บัส คันที่ตนนั่งมาไว้เป็นที่ระลึก กันอย่างถ้วนหน้า แทนการเข้าเยี่ยมชมสถานที่ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่หลายหน่วยงานจะนำมาจัดแสดงโชว์ เนื่องในงานวันเด็กแห่งชาติ


กำลังโหลดความคิดเห็น