บุรีรัมย์ - “ศุภชัย โพธิ์สุ” รมช.เกษตรฯ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาเพลี้ยแป้งระบาดในไร่มันฯ จ.บุรีรัมย์ ล่าสุด ขยายพื้นที่ระบาดแล้วกว่า 1.2 แสนไร่ พร้อมเสนอรัฐบาลพิจารณาจ่ายเป็นเงินสดชดเชยบรรเทาความเดือดร้อนเกษตรกร
วันนี้ (26 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศุภชัย โพธิ์สุ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ และ นายพีระศักดิ์ หินเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์เพลี้ยแป้งระบาดในไร่มันสำปะหลัง ของเกษตรกรที่ อ.ปะคำ และ อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์
โดยจากการสำรวจพบว่า ขณะนี้ทั้งจังหวัดบุรีรัมย์ มีพื้นที่เพลี้ยแป้งระบาดขยายเป็นวงกว้างกว่า 1.2 แสนไร่แล้ว จากพื้นที่เพาะปลูกมันสำปะหลังทั้งจังหวัดกว่า 240,000 ไร่ และคาดว่ามีแนวโน้มระบาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อรวบรวมข้อมูล และความต้องการของเกษตรกรที่ประสบปัญหาเพลี้ยแป้งระบาด เสนอต่อกระทรวงเกษตรฯ และรัฐบาล เพื่อพิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนดังกล่าวต่อไป
นายศุภชัย โพธิ์สุ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์เพลี้ยแป้งระบาดในครั้งนี้ พบว่า น่าห่วงเป็นอย่างมาก เพราะพื้นที่การระบาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมา รัฐบาลได้อนุมัติงบกลาง 65 ล้านบาท มาดำเนินการแก้ไขปัญหาสกัดกั้นการระบาดของเพลี้ยแป้ง โดยเบื้องต้นได้ดำเนินการในพื้นที่ 600,000 ไร่ แต่ไม่ได้ผล พื้นที่ระบาดกลับขยายวงกว้างมากขึ้น ขณะนี้ทั้งประเทศพบการระบาดไม่น้อยกว่า 1.2 ล้านไร่
ส่วนกรณีที่เกษตรกรเรียกร้องให้จ่ายเป็นเงินสดชดเชย แทนการแจกจ่ายท่อนพันธุ์และสารเคมีฉีดพ่นกำจัดเพลี้ยนั้นจะได้นำเสนอรัฐบาลพิจารณาอีกครั้ง
นายศุภชัย กล่าวอีกว่า ส่วนการสกัดกั้นปัญหาการระบาดของเพลี้ยแป้งนั้น เกษตรกรทุกพื้นที่ที่มีการระบาดของเพลี้ยแป้งต้องพร้อมใจกันไถต้นมันสำปะหลังทำลายทิ้งให้หมด จากนั้นภาครัฐจะจัดสรรท่อนพันธุ์ที่มีคุณภาพมาแจกจ่ายเพื่อให้เกษตรกรเพาะปลูกในฤดูกาลผลิตหน้า และก่อนปลูกต้องนำท่อนพันธุ์ไปแช่น้ำยา เชื่อว่ าจะสามารถแก้ปัญหาการระบาดของเพลี้ยแป้งได้อย่างแน่นอน แต่มีข้อแม้ว่าเกษตรกรทุกรายที่มีพื้นที่เพลี้ยแป้งระบาดต้องทำพร้อมกันทั้งหมด จึงจะได้ผล
ทางด้าน นายคำก่าย ตองพร อายุ 53 ปี เกษตรกรตำบลโคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังจากประสบปัญหาเพลี้ยแป้งระบาดทำให้ได้ผลผลิตลดลง จากเดิมเคยได้ผลผลิตเฉลี่ยไร่ละ 5 ตัน ลดเหลือเพียงไร่ละ 2 ตันเท่านั้น จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จ่ายเป็นเงินสดชดเชยช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายจากเพลี้ยแป้งระบาด ไร่ละ 2,000 บาท แทนการแจกจ่ายสารเคมี เพราะไม่สามารถสกัดกั้นการระบาดของเพลี้ยได้ ซึ่งที่ผ่านมาภาครัฐช่วยเหลือไม่ตรงจุดไม่สามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรได้ เพราะเกษตรกรบางรายต้องกู้ยืมทั้งในและนอกระบบมาลงทุน ทำให้เป็นหนี้สินหลายแสนบาท