อุบลราชธานี-“กลุ่มชักธงรบ” มวลชนคนเสื้อแดงจากเมืองดอกบัว ซึ่ง “นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อยากพบตัวแกนนำ ชี้ไม่เห็นด้วยกับแนวทางการชุมนุม นปช.ทั้งการสละเลือด หรือการขีดเส้นตายให้รีบยุบสภา เพราะทำรัฐบาลเสียหน้าแล้วข้อเรียกร้องไม่ได้รับการตอบสนอง ย้ำ อย่างไรยังร่วมชุมนุมต่อ เพราะมีเสบียงใช้เลี้ยงมวลชนได้นานเป็นสัปดาห์
วันนี้ (16 มี.ค.) นายพิเชษฐ์ หรือ ดีเจต้อย ดาบุดดี แกนนำกลุ่มชักธงรบ ซึ่งเป็นมวลชนคนเสื้อแดง จ.อุบลราชธานี กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมของมวลชน ขณะนี้มีการสลับเปลี่ยนกำลังคนเสื้อแดงจาก จ.อุบลราชธานี ขึ้นมาเติมมวลชนบางส่วนที่เดินทางกลับด้วยเหตุผลมีธุระส่วนตัว หรือมีอาการเจ็บป่วย ปัจจุบันมวลชนกลุ่มชักธงรบ ยังมีกำลังคนในที่ชุมนุม 500-600 คนตามเดิม
แกนนำกลุ่มชักธงรบ กล่าวถึงกรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พูดผ่านรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ ว่า ต้องการพบกับตนเป็นการพูดถึงโดยไม่ได้มีการติดต่อมา สำหรับที่ นายอภิสิท ธิ์ให้ความสำคัญต่อกลุ่มของตน เชื่อว่า มีปัจจัยจากกลุ่มชักธงรบไม่เข้าร่วมกับ นปช.แต่มาเคลื่อนไหวอย่างเป็นเอกเทศ
ดังนั้น การเคลื่อนไหวใดๆ ของกลุ่มชักธงรบกับกลุ่มคนเสื้อแดงกลุ่มอื่น จะดูเหตุผลของการเคลื่อนมวลชน มีความสมเหตุสมผลหรือไม่ และส่อเค้าไปในทิศทางรุนแรงด้วยหรือไม่
ถ้ามีแนวโน้มมีความรุนแรง กลุ่มก็ไม่เข้าร่วม เพราะปฏิเสธแนวทางนี้มาโดยตลอด เนื่องจากความรุนแรงไม่สร้างประโยชน์ให้กับผู้มาร่วมชุมนุมและประเทศชาติ สำหรับการสละเลือดตามที่แกนนำ นปช.ประกาศ กลุ่มชักธงรบไม่เห็นด้วย แต่เมื่อเป็นมติของผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ ก็ให้สมาชิกตัดสินใจกันเอง ใครจะสละเลือดหรือไม่สละเลือดก็ได้เช่นกัน เพราะถือเป็นสิทธิของสมาชิกแต่ละคน โดยไม่มีการบังคับ
นายพิเชษฐ์ กล่าวต่อว่า การเคลื่อนตัวอย่างเป็นเอกเทศที่เห็นได้ชัดเจน คือ การไปรวมตัวที่หน้ากรมทหารราบที่ 11 ซึ่งผู้ชุมนุม นปช.จะเคลื่อนขบวนด้วยรถยนต์ แต่มวลชนกลุ่มชักธงรบเข้าร่วม โดยการเดินเท้าไปกลับกว่า 30 กิโลเมตร เพราะสะดวกในการเดินทางดีกว่านั่งรถไป
นอกจากนี้ นายพิเชษฐ์ ยังให้ความเห็นการประกาศให้นายอภิสิทธิ์ ยุบสภาภายใน 24 ชั่วโมง เป็นการกดดันรัฐบาลมากเกินไป ทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถเจรจาด้วยสันติวิธี และรัฐบาลรู้สึกเสียหน้า หากต้องทำตามที่แกนนำ นปช.เรียกร้อง หนทางที่ถูกต้องแกนนำ นปช.ควรให้โอกาสรัฐบาล โดยให้รัฐบาลกำหนดระยะเวลาการยุบสภาภายใน 3 เดือน 6 เดือน ตามความจำเป็นของวาระงานที่ยังคั่งค้างอยู่ และหลังจากนั้น ถ้ารัฐบาลไม่ทำตามที่ได้ประกาศไว้ ก็จะจะเกิดผลเสียกับรัฐบาลเอง
ด้านการจัดเวทีคู่ขนานที่ จ.อุบลราชธานี กำลังมีการประสานกับมวลชนที่อยู่ในพื้นที่ คาดว่า จะสามารถจัดเวทีได้ในวันพรุ่งนี้ เพราะในพื้นที่ยังมีมวลชนที่ไม่ได้เดินทางร่วมชุมนุมในกรุงเทพฯจำนวนมาก ส่วนมวลชนในกรุงเทพฯคงปักหลักอยู่ต่อไป เพราะได้เตรียมเต็นท์ใช้พักอาศัย เสบียงอาหาร
รวมทั้งอุปกรณ์ทำครัวมาปรุงอาหารกินกันเองได้อีกราว 1 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย จึงไม่เป็นปัญหาด้านการกินอยู่หลับนอนของกลุ่มชักธงรบในขณะนี้