มหาสารคาม - สถานการณ์ภัยแล้งแรงไม่หยุด น้ำในอ่างเก็บน้ำเหลือน้อยต่ำกว่าระดับประตูระบายน้ำ ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรัง ต้องสูบน้ำเข้านาเป็นระยะทางเกือบ 1 กิโลเมตร
สถานการณ์ภัยแล้งในจังหวัดมหาสารคาม เริ่มขยายวงกว้างปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำหลายแห่งต่ำกว่าประตูระบายน้ำ ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านและพื้นที่ทำการเกษตรโดยเฉพาะที่อ่างเก็บน้ำหนองกระทุ่ม อำเภอเมืองมหาสารคาม มีปริมาณน้ำกักเก็บเหลือเพียง 0.325 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 12.33 ของความจุอ่าง จึงไม่สามารถปล่อยน้ำลงสู่คลองส่งน้ำเพื่อการเกษตรได้
เกษตรกรผู้ปลูกข้าวบริเวณรอบๆอ่างเก็บน้ำกว่า 500 ไร่ ต้องใช้วิธีสูบน้ำจากอ่างเก็บน้ำเข้าพื้นที่นาข้าวของตนเองแทน ทำให้ต้องแบกรับภาระต้นทุนการผลิตข้าวเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากข้าวใกล้ยืนต้นแห้งตายและจะไม่ออกดอก
นายถาวร พลเสน ชาวบ้านหมู่ที่ 2 บ้านดอนดู่ ตำบลเขวา อำเภอเมืองมหาสารคาม กล่าวว่า ตนมีที่นาทั้งหมด 14 ไร่ อยู่ติดกับคลองชลประทานที่รับน้ำจากอ่างเก็บน้ำหนองกระทุ่ม แต่ขณะนี้ปริมาณน้ำในอ่างมีน้อย ไม่สามารถปล่อยลงมาได้ ตนจึงต้องใช้เครื่องสูบน้ำต่อสายยางจากอ่างเก็บน้ำพาดผ่านคลองชลประทาน
จากนั้นใช้เครื่องสูบน้ำอีกตัว สูบน้ำเข้าพื้นที่ของตนเอง รวมระยะทางกว่า 500 เมตร ในแต่ละวันต้องเสียค่าน้ำมันประมาณ 300 บาท ใช้เวลาสูบน้ำเข้านาประมาณ 5 วัน เป็นเงิน 1,500 บาท จากนั้นอีกประมาณ 2 สัปดาห์ก็ต้องมาสูบน้ำอีก จนกว่าจะถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยว ส่งผลให้มีต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้นไม่ต่ำกว่าไร่ละ 1,500 บาท
อย่างไรก็ตาม ก็ต้องยอมเสี่ยงที่จะต้องลงทุนเพิ่ม และต้องหวังพึ่งรัฐบาลที่เมื่อจัดการปัญหาการเมืองเสร็จแล้ว คงจะหันมาสนใจเรื่องปากท้องของประชาชน ที่จะทำให้ราคาข้าวสูงขึ้นบ้าง