นราธิวาส - ผอ.โครงการชลประทานนราธิวาส เผยปีนี้ภัยแล้งในพื้นที่จะรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา สั่งเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องวางมาตรการการช่วยเหลือให้พร้อม
วันนี้ (3 มี.ค.53) นายประดิษฐ์ ปิ่นกระจาย ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนราธิวาส เปิดเผยถึงสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสว่า ในปีนี้มีแนวโน้มสถานการณ์ภัยแล้งรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา โดยเปรียบเทียบได้จากปริมาณน้ำฝนที่ตกตั้งแต่ต้นปีมีจำนวนน้อยมาก อีกทั้งแม่น้ำ 3 สายหลักทั้งแม่น้ำบางนรา แม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำสุไหงโก – ลก มีระดับต่ำกว่าตลิ่งมาก ซึ่งขณะนี้ทางชลประทานได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องให้เตรียมมาตรการในการช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรและเตรียมการรับภัยแล้งไว้แล้ว
สำหรับมาตรการเบื้องต้นในการรับภัยแล้งขณะนี้ได้ปิดประตูระบายน้ำบางนราไว้ชั่วคราวแล้ว โดยจะมีการเปิดเป็นระยะเพื่อไม่ให้กระทบกับวิถีชาวบ้าน ขณะที่โครงการชลประทานมูโน๊ะ มีการเปิดประตูระบายน้ำเพื่อดึงน้ำจืดจากแม่น้ำสุไหงโก-ลกไปเก็บกักไว้ในคลองชลประทานมูโน๊ะ เพื่อสำรองใช้ในการเกษตร รวมถึงการอุปโภคบริโภคในเขตพื้นที่รับผิดชอบ
ส่วนในพื้นที่ป่าพรุโต๊ะแดงได้มีการควบคุมระดับน้ำรอบพรุจำนวน 11 แห่ง เพื่อป้องกันน้ำแห้งซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ป่า ขณะที่ในพื้นที่พรุบาเจาะได้ปิดประตูระบายน้ำตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมาเพื่อเก็บกักน้ำให้เพียงพอกับพื้นที่การเกษตรที่มีการปลูกปาล์มน้ำมันกว่า 40, 000 ไร่ นอกจากนี้มีเตรียมเครื่องสูบน้ำจำนวน 18 เครื่องเพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ทำนาปีปลายฤดู ซึ่งขณะนี้ยังมีเกษตรกรที่ไม่เก็บเกี่ยวผลผลิต รวม 11,900 ไร่
วันนี้ (3 มี.ค.53) นายประดิษฐ์ ปิ่นกระจาย ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนราธิวาส เปิดเผยถึงสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสว่า ในปีนี้มีแนวโน้มสถานการณ์ภัยแล้งรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา โดยเปรียบเทียบได้จากปริมาณน้ำฝนที่ตกตั้งแต่ต้นปีมีจำนวนน้อยมาก อีกทั้งแม่น้ำ 3 สายหลักทั้งแม่น้ำบางนรา แม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำสุไหงโก – ลก มีระดับต่ำกว่าตลิ่งมาก ซึ่งขณะนี้ทางชลประทานได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องให้เตรียมมาตรการในการช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรและเตรียมการรับภัยแล้งไว้แล้ว
สำหรับมาตรการเบื้องต้นในการรับภัยแล้งขณะนี้ได้ปิดประตูระบายน้ำบางนราไว้ชั่วคราวแล้ว โดยจะมีการเปิดเป็นระยะเพื่อไม่ให้กระทบกับวิถีชาวบ้าน ขณะที่โครงการชลประทานมูโน๊ะ มีการเปิดประตูระบายน้ำเพื่อดึงน้ำจืดจากแม่น้ำสุไหงโก-ลกไปเก็บกักไว้ในคลองชลประทานมูโน๊ะ เพื่อสำรองใช้ในการเกษตร รวมถึงการอุปโภคบริโภคในเขตพื้นที่รับผิดชอบ
ส่วนในพื้นที่ป่าพรุโต๊ะแดงได้มีการควบคุมระดับน้ำรอบพรุจำนวน 11 แห่ง เพื่อป้องกันน้ำแห้งซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ป่า ขณะที่ในพื้นที่พรุบาเจาะได้ปิดประตูระบายน้ำตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมาเพื่อเก็บกักน้ำให้เพียงพอกับพื้นที่การเกษตรที่มีการปลูกปาล์มน้ำมันกว่า 40, 000 ไร่ นอกจากนี้มีเตรียมเครื่องสูบน้ำจำนวน 18 เครื่องเพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ทำนาปีปลายฤดู ซึ่งขณะนี้ยังมีเกษตรกรที่ไม่เก็บเกี่ยวผลผลิต รวม 11,900 ไร่
