แดงพิษณุโลก-สุโขทัยได้คนหลักร้อยมุ่งหน้าเข้าปากน้ำโพแล้ว

พิษณุโลก – หางแดงพิษณุโลก-สุโขทัย รวมกำลังได้หลักร้อย หลังไร้งบรายหัวจาก ส.ส.ช่วย ประกาศตัวเป็นนักรบพระองค์ดำ มุ่งหน้าเข้ากรุง สมทบคนเสื้อแดงสายเหนือที่ปากน้ำโพแล้ว

วันนี้ (12 มี.ค.) กลุ่มเสื้อแดง จ.พิษณุโลก ประมาณ 150 คน นำโดย นายบุญเลิศ เรืองทิม หรือ เลิศไม้เก่า แกนนำกลุ่มเสื้อแดง จ.พิษณุโลก ได้รวมตัวกับกลุ่มเสื้อแดง จ.สุโขทัย จำนวน 6 คันรถ แล้วเคลื่อนพลไปที่สะพานนเรศวร เพื่อทำพิธีก่อนเดินทางไปสนามกีฬา จ.นครสวรรค์ และนอนพักค้างที่นครสวรรค์ 1 คืน ก่อนมุ่งหน้าเข้ากรุงร่วมกับคนเสื้อแดงสายเหนือทั้งหมดต่อไป

ทั้งนี้ กลุ่มเสื้อแดง พิษณุโลก-สุโขทัย ได้นำพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ไว้บนรถยนต์กระบะ พร้อมกับติดธงสีแดง เขียนข้อความว่า นักรบพระองค์ดำ โดยเตรียมเสบียงคือ กล้วยตาก และหมี่ซั่ว ติดรถไปด้วย จากนั้นทั้งหมดได้มุ่งหน้าไปที่สะพานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช หน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ เพื่อทำการเผาพริก เผาเกลือ สาปแช่งรัฐบาล ก่อนจะเคลื่อนพลเดินทางผ่านกลางเมืองพิษณุโลก เพื่อไปรวมตัวกับกลุ่มเสื้อแดง จ.พิจิตร สี่แยกปลวกสูง อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร และไปรวมตัวกับกลุ่มเสื้อแดง จ.กำแพงเพชร ที่สี่แยกโพธิ์ทะเล จ.พิจิตร แล้วไปรวมตัวที่ สนามกีฬากลาง จ.นครสวรรค์ ตามเป้าหมายแรกช่วงบ่ายวันนี้

นายบุญเลิศ กล่าวว่า กลุ่มเสื้อแดงภาคเหนือตอนล่าง จะสู้เพื่อแผ่นดิน โดยหากไม่ชนะในการชุมนุมขับไล่รัฐบาลครั้งนี้ก็จะไม่เดินทางกลับ พร้อมทั้งอยากให้คนเสื้อแดงสู้เพื่อประเทศชาติ ร่วมกันชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยคืนมา ไม่รุนแรง แต่ขอพลีชีพ อยู่จนกว่าชนะ หรือหากแพ้ก็แพ้ราบคาบ จนกว่ารัฐบาลจะยุบสภาหรือลาออก ชนะจึงจะกลับ

ขณะที่คนรถบัสจำนวน 2 คัน บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ได้ค่าเช่าเหมารถไปกรุงเทพฯจำนวน 15,000 บาท เป็นการเดินทางไปอย่างเดียว ขากลับยังไม่ได้จ่าย รอแกนนำโทรเรียกจึงจะไปรับกลับ ฉะนั้นวันนี้เมื่อเดินทางไปส่งแล้วก็จะกลับทันที

ส่วนเสียงผู้ที่เดินทางไปบอกเพียงว่า เตรียมเสื้อไป 2-3 วัน แต่ยังไม่ได้รับค่าแรง บอกไปด้วยใจ

อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนเสื้อแดงที่เดินทางไปแค่ 150 คนเศษของพิษณุโลก และอีกไม่ถึง 100 คน ของสุโขทัย ถือว่า น้อยมาก หากเทียบกับจังหวัดอื่น เช่น อุตรดิตถ์ เนื่องจาก ส.ส. เพื่อไทย ในพื้นที่ไม่ยอมจัดสรรงบประมาณรายหัวให้ คนจึงน้อย

อย่างไรก็ตาม คณะเสื้อแดง 2 จังหวัด ได้ไปเติมน้ำมันและแวะกินข้าวเที่ยง ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. ของ ส.ส นิยม ช่างพินิจ ก่อนที่จะเดินทางไปนครสวรรค์ต่อไป