พิษณุโลก – แดงสายเหนือควานหา “อีแต๋น” ทุ่มเงินมากกว่ารถกระบะ หวังสร้างภาพถ่อยติดดิน คาด เสื้อแดงเฉียดหมื่นนอนสนามกีฬากลางนครสวรรค์ 1 คืน ก่อนเคลื่อนพลเช้า 13 มี.ค.53 ขณะที่กองทัพปิกอัพป่วน หลังแกนนำแดงประกาศจ่ายค่าน้ำมันครึ่งเดียว ที่เหลือให้หาเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่รับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 6 ที่ประเมินว่า ไม่น่าจะมีความรุนแรงใดๆ เพราะเป็นแค่ทางผ่านของกลุ่มมวลชนเสื้อแดงที่เดินทางไปกรุงเทพฯ โดยแบ่งออกเป็น 2 สาย คือ จากภาคเหนือตอนบนและภาคเหนือล่างบางส่วน จังหวัดละประมาณ 300-600 คน
ล่าสุดจังหวัดสุโขทัย ประเมินว่า เสื้อแดงมีประมาณ 100 คน เตรียมเคลื่อนพลมารวมกับกลุ่ม “เลิศ ไม้เก่า” ในเช้าวันที่ 12 มีนาคม ที่พิษณุโลก ร่วมกันบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณสะพานนเรศวร พร้อมปิดถนน 1 เลน ก่อนเคลื่อนพลไปที่สนามกีฬากลางจังหวัดนครสวรรค์
แต่ล่าสุดวันนี้ (10 มี.ค.) ปรากฏว่า กระแสตอบรับจากมวลชนน้อยกว่าที่คาด จนต้องนำรถเคลื่องเสียงตะเวนหามวลชนกันอีกรอบ
ส่วนที่จังหวัดพิจิตร มีรายงานว่า เช้าวันที่ 12 มีนาคม จะมีเสื้อแดงพิจิตรประเมินไว้ 100 คน ร่วมสมทบเดินทางไปนครสวรรค์เช่นกัน
ขณะที่กลุ่มเสื้อแดงของพิษณุโลกอีกกลุ่มที่ใช้ชื่อว่ากลุ่มนิสสัน เตรียมต้อนรับกลุ่มเสื้อแดงของจังหวัดอุตรดิตถ์แถวๆ สี่แยกอินโดจีน ที่ประเมินไว้ว่า มีเสื้อแดงเฉพาะอุตรดิตถ์ร่วม 500 คน ว่ากันว่า ส.ส.ทั้ง 3 คนของอุตรดิตถ์เป็นหัวหอก กำลังตามล่าหา “รถอีแต๋น” โดยประกาศว่า จะจ่ายเงินให้มากกว่ากระบะ เพราะต้องการสร้างภาพเคลื่อนขบวนเข้ากรุงเทพฯ
สำหรับเสื้อแดงสายเหนือที่ไหลลงจากตาก-กำแพงเพชร ไปรวมกันที่สนามกีฬากลางจังหวัดนครสวรรค์ โดยมี “จิตเกษม นิโรจน์” นายกเทศมนตรีนครสวรรค์ เคลียร์พื้นที่ไว้กว้างขวาง รองรับมวลชนระดับหมื่นคนได้อย่างสบาย คาดว่า ไม่เกิน 5 โมงเย็นของวันที่ 12 มีนาคม รถทุกคันจะเข้ารวมพลเช็คยอดที่นครสวรรค์
ขณะที่เสื้อแดงแท้ๆ ของจังหวัดนครสวรรค์ ประเมินเบื้องต้นแล้วไม่เกิน 1 พันคน ส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ ผู้บัญชาการภาค 6 ประเมินเสื้อแดงไว้แค่ 800-1,000 คน แต่ภาพอาจมากกว่าเพราะไปรวมเสื้อแดงที่สระบุรี สมทบเสื้อแดงทางภาคอีสาน
ทั้งนี้ พลพรรคเสื้อแดงเหนือล่างและเหนือบน จะนอนค้างคืนที่สนามกีฬาจังหวัดนครสวรรค์ 1 คืน รุ่งเช้า (13 มี.ค.) มีกำหนดปะพรมน้ำมนต์ก่อน แล้วค่อยออกเดินทางไปกรุงเทพฯ กำหนดล้อหมุนไม่เกิน 09.00 น.
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่กำลังเป็นปัญหากันหลายพื้นที่ ก็คือ กรณี ส.ส.นาวิน บุณเสรฐ ประกาศจ่ายค่าน้ำมัน (จากกระเป๋าที่ได้รับจากส่วนกลาง) เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีกครึ่งหนึ่ง ให้แกนนำแต่ละกลุ่มไปหากันเอาเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่รับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 6 ที่ประเมินว่า ไม่น่าจะมีความรุนแรงใดๆ เพราะเป็นแค่ทางผ่านของกลุ่มมวลชนเสื้อแดงที่เดินทางไปกรุงเทพฯ โดยแบ่งออกเป็น 2 สาย คือ จากภาคเหนือตอนบนและภาคเหนือล่างบางส่วน จังหวัดละประมาณ 300-600 คน
ล่าสุดจังหวัดสุโขทัย ประเมินว่า เสื้อแดงมีประมาณ 100 คน เตรียมเคลื่อนพลมารวมกับกลุ่ม “เลิศ ไม้เก่า” ในเช้าวันที่ 12 มีนาคม ที่พิษณุโลก ร่วมกันบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณสะพานนเรศวร พร้อมปิดถนน 1 เลน ก่อนเคลื่อนพลไปที่สนามกีฬากลางจังหวัดนครสวรรค์
แต่ล่าสุดวันนี้ (10 มี.ค.) ปรากฏว่า กระแสตอบรับจากมวลชนน้อยกว่าที่คาด จนต้องนำรถเคลื่องเสียงตะเวนหามวลชนกันอีกรอบ
ส่วนที่จังหวัดพิจิตร มีรายงานว่า เช้าวันที่ 12 มีนาคม จะมีเสื้อแดงพิจิตรประเมินไว้ 100 คน ร่วมสมทบเดินทางไปนครสวรรค์เช่นกัน
ขณะที่กลุ่มเสื้อแดงของพิษณุโลกอีกกลุ่มที่ใช้ชื่อว่ากลุ่มนิสสัน เตรียมต้อนรับกลุ่มเสื้อแดงของจังหวัดอุตรดิตถ์แถวๆ สี่แยกอินโดจีน ที่ประเมินไว้ว่า มีเสื้อแดงเฉพาะอุตรดิตถ์ร่วม 500 คน ว่ากันว่า ส.ส.ทั้ง 3 คนของอุตรดิตถ์เป็นหัวหอก กำลังตามล่าหา “รถอีแต๋น” โดยประกาศว่า จะจ่ายเงินให้มากกว่ากระบะ เพราะต้องการสร้างภาพเคลื่อนขบวนเข้ากรุงเทพฯ
สำหรับเสื้อแดงสายเหนือที่ไหลลงจากตาก-กำแพงเพชร ไปรวมกันที่สนามกีฬากลางจังหวัดนครสวรรค์ โดยมี “จิตเกษม นิโรจน์” นายกเทศมนตรีนครสวรรค์ เคลียร์พื้นที่ไว้กว้างขวาง รองรับมวลชนระดับหมื่นคนได้อย่างสบาย คาดว่า ไม่เกิน 5 โมงเย็นของวันที่ 12 มีนาคม รถทุกคันจะเข้ารวมพลเช็คยอดที่นครสวรรค์
ขณะที่เสื้อแดงแท้ๆ ของจังหวัดนครสวรรค์ ประเมินเบื้องต้นแล้วไม่เกิน 1 พันคน ส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ ผู้บัญชาการภาค 6 ประเมินเสื้อแดงไว้แค่ 800-1,000 คน แต่ภาพอาจมากกว่าเพราะไปรวมเสื้อแดงที่สระบุรี สมทบเสื้อแดงทางภาคอีสาน
ทั้งนี้ พลพรรคเสื้อแดงเหนือล่างและเหนือบน จะนอนค้างคืนที่สนามกีฬาจังหวัดนครสวรรค์ 1 คืน รุ่งเช้า (13 มี.ค.) มีกำหนดปะพรมน้ำมนต์ก่อน แล้วค่อยออกเดินทางไปกรุงเทพฯ กำหนดล้อหมุนไม่เกิน 09.00 น.
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่กำลังเป็นปัญหากันหลายพื้นที่ ก็คือ กรณี ส.ส.นาวิน บุณเสรฐ ประกาศจ่ายค่าน้ำมัน (จากกระเป๋าที่ได้รับจากส่วนกลาง) เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีกครึ่งหนึ่ง ให้แกนนำแต่ละกลุ่มไปหากันเอาเอง