“ผู้ว่าฯโคราช” จว.รวมฝูง “แดงถ่อยอีสาน” ชี้น่าห่วงอาจรุนแรงวุ่นวาย/ลั่นห้ามปิด “มิตรภาพ”

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้ว่าฯโคราชยอมรับสถานการณ์น่าเป็นห่วง อาจเกิดความรุนแรงหรือความวุ่นวายขึ้นในพื้นที่ ช่วงแดงถ่อยอีสาน 19 จังหวัดนัดรวมฝูง 12-13 มี.ค.ที่ อ.ปากช่อง ก่อนบุกยึดกรุง 14 มี.ค. เผยกำชับตั้งด่านตรวจเข้มอาวุธ- สิ่งผิดกม.ทุกอำเภอ สกัดลักลอบนำไปก่อเหตุวุ่นวาย เตือนม็อบถ่อยห้ามปิด “ถ.มิตรภาพ” ละเมิดสิทธิบุคคลอื่น หากฝ่าฝืนจำต้องใช้กม.จัดการขั้นเด็ดขาด

วันนี้ (8 ม.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัดที่นัดรวมพลกันที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ในวันที่ 12-13 มี.ค.ก่อนเดินทางเข้าร่วมชุมนุมใหญ่ ที่กรุงเทพฯ 14 มี.ค.นี้ ว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง หรือการเคลื่อนไหวเข้ากรุงเทพฯ จะไม่มีการไปสกัดกั้นใดๆ เพราะตราบใดที่มีการเคลื่อนไหวโดยสันติวิธี เป็นไปตามรัฐธรรมนูญก็สกัดกั้นไม่ได้

ในส่วนของทางราชการต้องทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนให้ตัดสินใจ ในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ ข้าราชการก็ทำให้สิ่งที่จะรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองเป็นหลัก

ส่วนกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงจาก 19 จังหวัดภาคอีสาน นัดรวมตัวกันที่ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา นั้น ขอยืนยันว่า จะไม่มีการสกัดกั้นกลุ่มคนเสื้อแดงเพื่อไม่ให้เดินทางไปร่วมการชุมนุมในครั้งนี้แต่อย่างใด เพียงแต่จะมีการตั้งด่านตรวจตามปกติในแต่ละอำเภอ รวมถึงการตรวจค้นอาวุธและสิ่งผิดกฎหมาย เพื่อไม่ให้มีการลักลอบนำไปก่อเหตุความวุ่นวายเท่านั้น ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือคำสั่งให้ปฏิบัติภารกิจตามกรอบของกฎหมาย ไม่ได้สั่งการให้มีการสกัดกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างที่เป็นข่าว ส่วนจะเลือกตัดสินใจอย่างไรเป็นเรื่องของประชาชนว่าสิ่งไหนที่ควรทำ สิ่งไหนไม่ควรทำ

“ส่วนตัวผมพูดอยู่เสมอว่าเคารพในการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน เชื่อว่า พี่น้องชาวโคราชจะตัดสินใจในสิ่งที่เป็นประโยชน์ สิ่งที่รักษาความสงบเรียบร้อย ความมั่นคงของชาติเป็นส่วนรวม เพราะทุกครั้งพี่น้องชาวโคราชก็มีวิธีในการตัดสินใจอย่างดี ซึ่งผมค่อนข้างมั่นใจ” นายประจักษ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม การชุมนุมถ้าเป็นไปโดยสันติ ไม่สร้างความวุ่นวายและกระทำผิดกฎหมายก็ไม่เป็นไร แต่หากมีการปิดถนนมิตรภาพ เราคงยอมไม่ได้ เพราะส่งผลกระทบสิทธิเสรีภาพของคนอื่น ซึ่งจะเป็นปัญหา ฉะนั้น ต่างคนต่างทำหน้าที่ให้ดีที่สุดมัน ก็จะเกิดความสงบสุขได้ ฉะนั้น จึงขอน้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฝากไปยังประชาชน คือ ทุกคนทุกฝ่ายในชาติมุ่งที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เต็มกำลัง ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด และด้วยความสุจริตจริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น ซึ่งหากทุกคนทำอย่างนี้ได้บ้านเมืองก็จะสงบสุข

ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะระดมรถอีแต๋นและรถกระบะเข้าร่วมเดินทางไปชุมนุมเป็นจำนวนมากนั้น นายประจักษ์ กล่าวว่า จริงๆ บ้านเราตามต่างจังหวัดก็ใช้กันอยู่ทั่วไปในการขนส่งผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งไม่เหมือนในกรุงเทพฯ เราก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เพียงแต่เราต้องดูไม่ให้มีอาวุธ

ในส่วนของ จ.นครราชสีมา ไม่ได้มีการห้ามไม่ให้รถอีแต๋นเดินทางผ่านเส้นทางหลักแต่อย่างใด เพราะอาจมีผลกระทบต่อเกษตรกรที่ต้องใช้รถอีแต๋นเป็นพาหนะ เพื่อเดินทางไปทำการเกษตร เพียงแต่จะมีการตรวจค้นหาอาวุธที่อาจนำไปสร้างความรุนแรงเท่านั้น

นายประจักษ์ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 12 มี.ค.นี้ ตามรายงานข่าวจะมีการนัดรวมพลของกลุ่มคนเสื้อแดง 19 จังหวัดภาคอีสาน ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะมีคนมาร่วมชุมนุมมากน้อยขนาดไหน ตรงจุดนี้ส่วนตัวมีความเป็นห่วงว่าอาจเกิดความรุนแรง หรือความวุ่นวายขึ้นในพื้นที่ได้ ซึ่งจะบอกว่าไม่ให้ห่วงก็ไม่ได้และเป็นความกังวลที่เรามีอยู่เหมือนกัน เนื่องจากประชาชนที่มารวมตัวกันจะเดินทางมาจากหลายจังหวัดร้อยพ่อพันแม่ และอาจมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีเข้ามาสร้างสถานการณ์ ซึ่งไม่สามารถที่จะรู้ได้เลยว่าใครเข้ามาในพื้นที่ด้วยจุดประสงค์ใด

ดังนั้น ตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยให้จับตามองบุคคลที่มีพฤติกรรมต้องสงสัย และขอให้ประชาชนทุกคนช่วยเป็นหูเป็นตาหากพบใครมีพฤติกรรมต้องสงสัยให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบทันที

“ส่วนกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะเดินทางมารวมตัวกัน ก็ขอให้เป็นการเคลื่อนไหวอย่างสงบเหมือนที่ผ่านมา และอย่าเคลื่อนไหวสร้างความเดือดร้อนให้แก่ส่วนรวม อย่างเช่น ทำการปิดถนน ซึ่งหากกลุ่มคนเสื้อแดงกระทำการที่เป็นการละเมิดสิทธิของผู้อื่น ก็จำเป็นที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่าง” นายประจักษ์ กล่าว