จันทบุรี - กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เรียกหน่วยงานตามแนวชายแดนฝั่งภูมิภาคตะวันออก เข้ารับฟังแนวทางป้องกันโรคติดต่อ หลังสถานการณ์ตามชายแดนยังน่าห่วง โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านติดไทยที่มีการค้าขายและใช้ชีวิตร่วมกัน
วันนี้ (5 มี.ค.) ที่ห้องประชุมโรงแรม เคพี แกรนด์ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี เจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดชลบุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาล สำนักงานท่าเรือ ท่าเรือต่างๆ ด่านตรวจคนเข้าเมือง ด่านกักกันสัตว์ ด่านศุลกากร ทหาร ตำรวจ และสำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค ใน 9 จังหวัดภาคตะวันออก จำนวนกว่า 100 คน เดิน เข้ารับฟังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อตามแนวชายแดน จากนายแพทย์ประสงค์ ฝักเจริญผล รองผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดชลบุรี สังกัดกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ที่ระบาดในหลายประเทศ ตั้งแต่ปี 2546 เรื่อยมา และพบว่า ปี 2552 มีผู้ป่วยติดเชื้อโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 กว่า 70 คนทั่วโลก และมีผู้เสียชีวิตไปเกินกว่าครึ่ง ซึ่งมากกว่าปี 2551 ขณะที่ประเทศไทยพบเมื่อ 1-2 ปี มีคนเสียชีวิตเป็นแม่กับลูก ที่จังหวัดกำแพงเพชร ติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์เก่า ทำให้กระทรวงสาธารณสุขมีการตื่นตัวเฝ้าระวังโรคติดต่ออยู่ตลอดเวลา
โดยในประเทศเพื่อนบ้าน ทั้ง กัมพูชา อินโดนีเซีย เวียดนาม และ จีน ยังมีการพบผู้ป่วยอยู่อย่างต่อเนื่อง ยิ่งประเทศกัมพูชามีรอยต่อติดกับประเทศไทย และมีการค้าขายร่วมกันอยู่ตลอดเวลา จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังอย่างเข็มข้น เพื่อกันไม่ให้เชื้อข้ามพรมแดนเข้ามาในประเทศ และอาจทำให้เกิดการสูญเสียด้าน สังคมและเศรษฐกิจของประเทศเป็นจำนวนมาก
นายแพทย์ประสงค์ ฝักเจริญผล รองผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัด ชลบุรี ได้เปิดเผยว่า พื้นที่ภาคตะวันออกมีสภาพภูมิศาสตร์ที่หลากหลาย มีพรมแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน มีช่องทางเข้า-ออกประเทศ ทั้งทางบก ทางอากาศ และทางน้ำ เสี่ยงต่อการแพร่กระจายของโรคติดต่อต่างๆได้ง่าย ซึ่งปัจจุบันเชื้อไข้หวัดนกในสัตว์ปีก ทั้งไก่ เป็ด นก รวมถึงหมู มีวิธีแปลงสายพันธุ์ที่ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศต่างๆ
ที่น่าสนใจ คือ เริ่มพบในบรรดานกอพยพ ที่บินข้ามข้ามแดน ซึ่งวิธีสกัดกั้นนั้นเป็นไปได้ยาก ในส่วนภาคตะวันออกมีด่านชายแดนติดกับประเทศกัมพูชาเป็นแนวยาว การเฝ้าระวังทำได้ยากจำเป็นต้องสร้างเครือข่ายและบูรณาการร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ จึงจะเกิดผล
ขณะที่มาตรการป้องกัน รองผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดชลบุรี ได้เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้ประสานไปยัง 10 หน่วย งานเกี่ยวข้องที่รับผิดชอบงานด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศทางบก ทางน้ำ ทางอากาศของภาคตะวันออก ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมรับฟังยุทธศาสตร์ ป้องกันแก้ไข เพื่อเตรียมรับปัญหาโรคไข้หวัดนก และโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ 2548 และ เพื่อประเมินขีดความสามารถของแต่ละพื้นที่ในการป้องกันควบคุมการระบาดของโรค ติดต่อดังกล่าวในระยะยาว
ในเบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ หากพบมีการนำสัตว์ปีกเคลื่อนย้ายจากประเทศเพื่อนบ้านข้ามพรมแดนเข้ามายัง ฝั่งไทย อย่างละเอียดรวมถึงสังเกตพฤติกรรมของคนหากพบว่ามีอาการต้องสงสัย ควรตรวจสอบและดำเนินการตามขั้นตอนในทันที
วันนี้ (5 มี.ค.) ที่ห้องประชุมโรงแรม เคพี แกรนด์ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี เจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดชลบุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาล สำนักงานท่าเรือ ท่าเรือต่างๆ ด่านตรวจคนเข้าเมือง ด่านกักกันสัตว์ ด่านศุลกากร ทหาร ตำรวจ และสำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค ใน 9 จังหวัดภาคตะวันออก จำนวนกว่า 100 คน เดิน เข้ารับฟังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อตามแนวชายแดน จากนายแพทย์ประสงค์ ฝักเจริญผล รองผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดชลบุรี สังกัดกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ที่ระบาดในหลายประเทศ ตั้งแต่ปี 2546 เรื่อยมา และพบว่า ปี 2552 มีผู้ป่วยติดเชื้อโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 กว่า 70 คนทั่วโลก และมีผู้เสียชีวิตไปเกินกว่าครึ่ง ซึ่งมากกว่าปี 2551 ขณะที่ประเทศไทยพบเมื่อ 1-2 ปี มีคนเสียชีวิตเป็นแม่กับลูก ที่จังหวัดกำแพงเพชร ติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์เก่า ทำให้กระทรวงสาธารณสุขมีการตื่นตัวเฝ้าระวังโรคติดต่ออยู่ตลอดเวลา
โดยในประเทศเพื่อนบ้าน ทั้ง กัมพูชา อินโดนีเซีย เวียดนาม และ จีน ยังมีการพบผู้ป่วยอยู่อย่างต่อเนื่อง ยิ่งประเทศกัมพูชามีรอยต่อติดกับประเทศไทย และมีการค้าขายร่วมกันอยู่ตลอดเวลา จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังอย่างเข็มข้น เพื่อกันไม่ให้เชื้อข้ามพรมแดนเข้ามาในประเทศ และอาจทำให้เกิดการสูญเสียด้าน สังคมและเศรษฐกิจของประเทศเป็นจำนวนมาก
นายแพทย์ประสงค์ ฝักเจริญผล รองผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัด ชลบุรี ได้เปิดเผยว่า พื้นที่ภาคตะวันออกมีสภาพภูมิศาสตร์ที่หลากหลาย มีพรมแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน มีช่องทางเข้า-ออกประเทศ ทั้งทางบก ทางอากาศ และทางน้ำ เสี่ยงต่อการแพร่กระจายของโรคติดต่อต่างๆได้ง่าย ซึ่งปัจจุบันเชื้อไข้หวัดนกในสัตว์ปีก ทั้งไก่ เป็ด นก รวมถึงหมู มีวิธีแปลงสายพันธุ์ที่ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศต่างๆ
ที่น่าสนใจ คือ เริ่มพบในบรรดานกอพยพ ที่บินข้ามข้ามแดน ซึ่งวิธีสกัดกั้นนั้นเป็นไปได้ยาก ในส่วนภาคตะวันออกมีด่านชายแดนติดกับประเทศกัมพูชาเป็นแนวยาว การเฝ้าระวังทำได้ยากจำเป็นต้องสร้างเครือข่ายและบูรณาการร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ จึงจะเกิดผล
ขณะที่มาตรการป้องกัน รองผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดชลบุรี ได้เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้ประสานไปยัง 10 หน่วย งานเกี่ยวข้องที่รับผิดชอบงานด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศทางบก ทางน้ำ ทางอากาศของภาคตะวันออก ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมรับฟังยุทธศาสตร์ ป้องกันแก้ไข เพื่อเตรียมรับปัญหาโรคไข้หวัดนก และโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ 2548 และ เพื่อประเมินขีดความสามารถของแต่ละพื้นที่ในการป้องกันควบคุมการระบาดของโรค ติดต่อดังกล่าวในระยะยาว
ในเบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ หากพบมีการนำสัตว์ปีกเคลื่อนย้ายจากประเทศเพื่อนบ้านข้ามพรมแดนเข้ามายัง ฝั่งไทย อย่างละเอียดรวมถึงสังเกตพฤติกรรมของคนหากพบว่ามีอาการต้องสงสัย ควรตรวจสอบและดำเนินการตามขั้นตอนในทันที