xs
xsm
sm
md
lg

“กาแฟดอยช้าง” เจอแล้ง เริ่มเฉานับหมื่นไร่ แฉ ชร.-แม่สรวยเกิดไฟป่าถี่ยิบไร้คนดูแล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย – วิกฤตแล้ง-ไฟป่าเชียงรายลุกลามหนัก เผยสองข้างทางถนนสายเชียงราย-แม่สรวย ไร้หน่วยงานดูแล ทั้งที่เกิดไฟป่าบ่อยครั้งยาวนาน สายไฟฟ้า-โทรศัพท์ไหม้ระนาว ขณะที่ “ไร่กาแฟดอยช้าง” กาแฟขึ้นชื่อกำลังไร้อนาคต หลังเจอแล้งหนัก จนเริ่มเฉานับหมื่นไร่ เกษตรกรลุ้นฝนช่วย

รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า ในรอบสัปดาห์นี้พบว่าได้เกิดไฟป่าขึ้นอย่างในพื้นที่ป่ารกร้างในหลายพื้นที่ของเชียงราย โดยเฉพาะตามเส้นทางสายเชียงราย-แม่สรวย ซึ่งมีพืชล้มลุกที่แห้งทำให้เป็นเชื้อไฟอย่างดีปกคลุมอยู่เป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับมีลมหมุนพัดวน ทำให้เพลิงลุกไหม้ได้เป็นอย่างดี และเป็นที่น่าสังเกตว่าเพลิงได้ลุกไหม้ตลอดทั้งวัน และบ่อยครั้ง จนสามารถมองเห็นหมอกควันปกคลุมไปทั่วบริเวณ อ.แม่สรวย และข้างเคียงได้อย่างชัดเจน แต่กลับไม่มีหน่วยเคลื่อนที่เร็วเข้าไปดับเพลิงแต่อย่างใด ทำให้ไฟลุกลามต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดเชื้อไปเอง

ขณะที่ตลอดสองข้างทางสายนี้ก็มีร่องรอยขี้เถ้าอยู่ทั่วบริเวณ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเคยเกิดการลุกไหม้ขึ้นมาแล้วหลายครั้ง

แน่นอนว่าปัญหาดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คุณภาพอากาศเชียงราย เกินค่ามาตรฐานที่กำหนดค่าปลอดภัยเอาไว้ในฝุ่นละอองขนาดต่ำกว่า 10 ไมครอนไม่ให้เกินกว่า 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรติดต่อกันมาหลายวัน

ไม่เพียงเท่านั้น ไฟป่าที่ลุกไหม้ต่อเนื่องยาวนานหลายวันนี้ยังทำให้สายโทรศัพท์ของบริษัททีโอที จำกัด ซึ่งอยู่ในแนวต่ำของเสาไฟฟ้าตามเส้นทางสายเชียงราย-แม่สรวย ได้รับความเสียหายถูกไฟโหมลุกไหม้หลายจุด

เจ้าหน้าที่ของบริษัท ทีทีโอที จำกัด สาขาเชียงราย ที่ออกดับเพลิงด้วยตัวเองด้วยการขว้างถุงพลาสติกบรรจุน้ำขึ้นไปบนเสาโทรศัพท์และทำการซ่อมแซมระบุว่า ในระยะนี้ไฟป่าได้สร้างความเสียหายให้กับสายโทรศัพท์ที่เป็นฉนวนหุ้มพลาสติกไปแล้วหลายจุด และยังเกิดขึ้นซ้ำซากวันละหลายครั้ง ส่งผลให้สัญญาณโทรศัพท์ตัด ผู้ใช้บริการตามเส้นทางนี้ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งทางบริษัทต้องส่งเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวนไปตามถนนทุกวัน เพราะไม่รู้ว่าไฟจะเกิดขึ้น ณ จุดใดบ้าง

ขณะเดียวกัน ปัญหาความแห้งแล้งจนทำให้เกิดไฟป่าดังกล่าวยังกระทบไปถึงพื้นที่ทางการเกษตรหลายแห่งด้วย โดยที่ไร่กาแฟของชาวดอยช้าง ต.วาวี อ.แม่สรวย กาแฟชื่อดังของเชียงราย ซึ่งตั้งอยู่ในเขตภูเขาสูง ก็มีต้นกาแฟจำนวนมากกำลังเหี่ยวเฉา บางต้นโดยเฉพาะต้นขนาดเล็กต้องยืนต้นตายจำนวนมาก หลังสภาพอากาศในปีนี้แห้งแล้งผิดปกติและฝนทิ้งช่วงยาวนาน

นายชาลี คีรีคามสุข อายุ 45 ปี เกษตรกรชาวสวนกาแฟดอยช้าง กล่าวว่า ปีนี้ภัยแล้งรุนแรงกว่าทุกปี ทั้งมาเร็วและแล้งจัด ที่ผ่านมาชาวสวนต้องใช้สปริงเกอร์ในการฉีดน้ำหล่อเลี้ยงใบ แต่เนื่องด้วยพื้นที่มีการปลูกต้นกาแฟมีมากเกือบ 20,000 ไร่ ประกอบแหล่งน้ำหลักตามลำห้วยต่าง ๆ เริ่มแห้งขอดทำให้น้ำไม่เพียงพอ ส่งผลให้ต้นกาแฟใบเริ่มเหี่ยวเฉาและทยอยแห้งตาย ได้รับความเสียหายร่วม 10,000 ไร่ แม้บางต้นจะไม่ถึงตายก็ไม่สามารถให้ผลผลิตได้ในปีนี้

“ก็ยังไม่รู้จะทำอย่างไร คงต้องลุ้นและหวังว่าฝนจะตกมาช่วยเหลือในเร็ววันนี้ ก่อนที่กาแฟจะเสียหายทั้งหมด”

นายชาลีบอกอีกว่า ส่วนไฟป่าที่เกิดขึ้นบ่อยในช่วงนี้คงจะไม่ลุกลามเข้าสู่ไร่กาแฟแน่นอน เพราะชาวบ้านจะช่วยกันดูแลรักษาอย่างดีโดยทำแนวกันไฟเอาไว้

ส่วนสาเหตุที่เกิดไฟป่ารอบนอกบ่อยครั้งน่าจะมาจากการที่ไม่ได้เกิดขึ้นมานานร่วม 2 ปีแล้วทำให้เกิดการสะสมเชื้อไฟของพงหญ้าต่างๆ เมื่อมีความประมาทของคนจุดไฟ ล่าสัตว์ เผาทำไร่หรือก้นบุหรี่ทำให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงได้



กำลังโหลดความคิดเห็น