บุรีรัมย์ - ก.วัฒนธรรม สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คุมเข้มโบราณสถาน วัตถุโบราณ และพระพุทธรูปต่างๆ ภายในวัด โดยร่วมมือกับท้องถิ่นรณรงค์ปลูกจิตสำนึก ปชช.ในพื้นที่ช่วยกันดูแลรักษาป้องกันคนร้ายลักขโมย หรือทุบทำลาย พร้อมแนะเสนอโครงการของบไทยเข้มแข็ง
วันนี้ (4 มี.ค.) นายปรีชา กันธิยะ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยภายหลังเดินมาตรวจราชการและมอบนโยบาย กับข้าราชการหน่วยงานในสังกัดที่จังหวัดบุรีรัมย์ ว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัด ทั้งสำนักงานอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดทุกแห่ง ได้ประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั้งเทศบาลและ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ในการประชาสัมพันธ์ ปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนในพื้นที่ รักและหวงแหนโบราณสถาน รวมถึงพระพุทธรูปเก่าแก่ที่ประดิษฐ์สถานอยู่ตามวัดต่างๆ ร่วมกันดูแลรักษาให้รู้สึกว่าเป็นเจ้าของร่วมกัน
นอกจากนั้น ได้ให้ร่วมกันจัดเวรยามในการดูแลรักษา สอดส่องไม่ให้กลุ่มแก๊งมิจฉาชีพมาลักขโมย หรือทุบทำลายได้ เพราะที่ผ่านมาได้มีทั้งวัตถุโบราณ พระพุทธรูปที่เก่าแก่ ถูกลักขโมยและถูกทุบทำลายอยู่เป็นประจำ ซึ่งนอกจากจะให้หน่วยงานในพื้นที่ดูแลร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ยังได้ตั้งอาสาสมัครวัฒนธรรมที่มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 20,000 คน เข้าไปร่วมในการสอดส่องดูแลรักษา โบราณสถานต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ด้วย
นายปรีชา กล่าวอีกว่า ยังได้แนะให้หลายหน่วยงานในสังกัด ร่วมกับหมู่บ้าน ชุมชนในท้องถิ่นที่มีโบราณสถาน วัด ที่มีพระพุทธรูปเก่าแก่ควรค่าอนุรักษ์ ประดิษฐานอยู่ เขียนแผนงานโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับทางวัฒนธรรม แต่ต้องเป็นโครงการที่ประชาชนเห็นชอบ และได้ประโยชน์ด้วย เพื่อนำเสนอของบประมาณในโครงการไทยเข้มแข็ง ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณลงสู่ท้องถิ่นให้บริหารจัดการในการพัฒนาหมู่บ้านชุมชนกันเองให้เกิดความเข้มแข็ง เพราะงบประมาณของกระทรวงวัฒนธรรมมีน้อย ไม่เพียงพอนำมาสนับสนุนในการรักษาและบูรณะสถานที่ต่างๆ ได้ทั่วถึง
“ทั้งนี้ เนื่องจากรัฐบาลได้หันมามุ่งจัดสรรเงินงบประมาณลงสู่ท้องถิ่น หมู่บ้าน ชุมชนเป็นหลัก ภายใต้โครงการไทยเข้มแข็ง และโครงการชุมชนพอเพียง หน่วยงานภาครัฐเป็นผู้ให้การส่งเสริม สนับสนุนหมู่บ้าน และชุมชน ให้ประสบผลสำเร็จเข้มแข็งตามวัตถุประสงค์ของโครงการเท่านั้น” นายปรีชา กล่าว