นอภ.พรหมพิราม ลั่นพร้อมจัดการมาเฟีย ชักหัวคิวค่าคุมประตูน้ำเข้านา

พิษณุโลก - นอภ.พรหมพิราม ลั่นกลางที่ประชุมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน จ่อฟันมาเฟียผู้นำท้องถิ่นคุมประตูน้ำ เก็บหัวคิวค่าปล่อยน้ำเข้าพื้นที่ทำนาไร่ละ 700 บาท เร่งประสานขอเรือกำจัดวัชพืชด่วน ชลประทาน-เขื่อนนเรศวร ยันมีน้ำเหลือแค่ 22%

วันนี้(3มี.ค.) ที่หอประชุมศูนย์ประสานแผน อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก นายจำลอง เณรแย้ม นายอำเภอพรหมพิราม ได้ร่วมประชุมประจำเดือนกับกำนันและผู้ใหญ่บ้านในเขตอำเภอพรหมพิราม โดยมีการหยิบยกประเด็นการแย่งชิงน้ำ ขึ้นมาพูดในที่ประชุม ซึ่งนายอำเภอพรหมพิรามบอกว่า หน้าที่ของเขาก็คือการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำให้กับชาวบ้านใช้ทำนาปรับรอบนี้เท่านั้น พร้อมแก้ปัญหามาเฟียเก็บต๋งค่าน้ำ

นายอำเภอพรหมพิราม เปิดเผยว่า ตนเพิ่งมารับตำแหน่งวันที่ 22 ก.พ.53 แต่วันที่ 19 ก.พ.53 ก็ได้รับรายงานว่า น้ำไม่มีในลำคลอง จึงประสานผู้นำท้องถิ่นและเซ็นสัญญาข้อตกลง อบต.วังวนและ อบต.ศรีภิรมย์ จากลำคลองขอน ที่รับน้ำจากแม่น้ำน่าน ไหลมาจาก ต.ตลุกกระเทียม ต.ศรีภิรมย์ และ ต.วังวน กำหนดเปิด-ปิดประตูน้ำให้ชัดเจน เพื่อใช้น้ำอย่างทั่วถึง แต่ปรากฏว่า ช่วงที่ตกลงเรียบร้อย กลับมีปัญหาขึ้นมา เพราะพาชาวบ้านมากดดัน ทำให้ต้องสั่ง อส.ไปเฝ้าดูแลประตูน้ำ

ล่าสุดกำลังเร่งประสานขอเรือกำจัดวัชพืชจากหน่วยงานกรมชลประทาน และอบจ.พิษณุโลก เพื่อนำผักตบออกจากหน้าประตูระบายน้ำ ให้น้ำไหลสะดวกขึ้น

นายโกมลสิทธิ์ ชิตประเสริฐ ประธานเครือข่ายเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดพิษณุโลก กล่าว่า ปัญหาการแย่งชิ่งน้ำในพื้นที่สองตำบล เบื้องลึกมีการเมืองท้องถิ่นเข้าเกี่ยวข้อง ทั้งที่เรื่องของการจัดสรรน้ำได้ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว

โดยมีการการเก็บค่าต๋ง หรือผลประโยชน์จากการผันน้ำชลประทานเข้าไร่นาอัตราไร่ละ 700 บาท ซึ่งเป็นเพราะผู้นำท้องถิ่นบางคน มีอิทธิพลสามารถข่มขู่ชาวนา โดยอ้างว่าเก็บเงินเพราะโครงการผันน้ำน่านสู่น้ำยมสายเก่า ปี 47 เป็นโครงการที่ตนขอมา จึงเก็บเงินค่าชักน้ำเข้านา อีกทั้งยังมีอิทธิพลควบคุมประตูน้ำบ้านท่าง่าม หมู่ 2 ต.ศรีภิรมย์ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก อีกด้วย

นายสมชาย ตระกูลสว่าง หัวหน้าฝ่ายจัดการน้ำ โครงการเขื่อนนเรศวร กล่าวว่า ปริมาณน้ำในเขื่อนนเรศวรเหลืออยู่น้อยเพียง 22% พอแค่น้ำก่อนเมษายนนี้ หรือ ใช้ได้ 1,528 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปกติ 9,510 ล้านลูกบาศก์เมตร