กาฬสินธุ์ - ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ภายในโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ด้านนายแพทย์สาธารณสุขกาฬสินธุ์เผยพบผู้ป่วยแล้ว 176 ราย เสียชีวิต 2 ราย พร้อมเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (26 ก.พ.) นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขต 12 พร้อมคณะเดินทางมามอบนโยบายและตรวจเยี่ยมการดำเนินงานให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ของโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ โดยมีนายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายแพทย์พิสิทธิ์ เอื้อวงศ์กูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ นายแพทย์สมคิด สุริยเลิศ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ และบุคคลากรสาธารณสุขในจังหวัดกาฬสินธุ์เข้าร่วมให้การต้อนรับกว่า 500 คน
นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขต 12 กล่าวว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้สนับสนุนวัคซีน และแนวทางการดำเนินงานการให้วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ให้กับสถานพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อให้บริการกับประชาชนในกลุ่มเสี่ยง 5 กลุ่ม โดยปัจจุบันมีการใช้วัคซีนเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงได้กำชับให้จัดการบริการฉีดวัคซีนเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติที่กรมควบคุมโรคกำหนดอย่างเคร่งครัด
โดยให้วัคซีนในโรงพยาบาลเท่านั้น และต้องมีการตรวจสุขภาพประชาชนก่อนฉีด รวมถึงการเฝ้าระวังหลังฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาล 30 นาที และให้โรงพยาบาลเตรียมความพร้อมทั้งบุคลากร วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือช่วยเหลือ ในกรณีที่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน ส่วนหญิงตั้งครรภ์ให้ผ่านการให้คำปรึกษาคัดกรองอย่างละเอียด
ด้าน นายแพทย์พิสิทธิ์ เอื้อวงศ์กูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยในปี 2552 ที่ผ่านมาพบผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันทั้งหมด 174 ราย เสียชีวิต 2 ราย สำหรับในปี 2553 ตั้งแต่เดือนมกราคม 2553 จนถึงปัจจุบันพบผู้ป่วยเพียง 2 ราย เท่านั้น และยังไม่ได้รับการรายงานการเสียชีวิต
สำหรับการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ได้รับการจัดสรรทั้งหมด 21,040 ราย ปัจจุบันมีประชาชนเข้ามาใช้บริการฉีดวัคซีนแล้ว 5,200 ราย อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการป้องกัน ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกแห่ง รวมทั้ง อสม.ได้รณรงค์ให้ประชาชนรู้จักวิธีป้องกันโรคอย่างต่อเนื่อง
พร้อมทั้งให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่สนใจฉีดวัคซีน โดยไม่จำเป็นที่ต้องเป็นกลุ่มบุคคลเสี่ยงก็สามารถของรับการฉีดวัคซีนได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน
