เลย - อธิบดีกรมป่าไม้วอนช่วยกันดูแลไฟป่า เหตุปีนี้พื้นที่ภาคอีสานแล้งจัด โดยเฉพาะพื้นที่ป่าจังหวัดเลยเสี่ยงเกิดไฟป่าสูง
วันนี้ (24 ก.พ.) ที่สนามกีฬากลางจังหวัดเลย นายสมชัย เพียรสถาพร อธิบดีกรมป่าไม้ เดินทางมาเป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์วันปลอดควันพิษจากไฟป่า เนื่องในวันที่ 24 ก.พ.ของทุกปีเป็นวันปลอดควันพิษจากไฟป่า จัดโดยสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 (อุดรธานี) โดยมีกิจกรรมการเดินรณรงค์ของนักเรียน นักศึกษา และประชาชนรวมกว่า 2,500 คน การจัดนิทรรศการเกี่ยวกับไฟป่า การแสดงชุดรณรงค์ป้องกันไฟป่าจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย การประกวดวาดภาพรณรงค์ป้องกันไฟป่า และการสาธิตดับไฟป่า
นายสมชัย เพียรสถาพร อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า วันที่ 24 ก.พ.ของทุกปีถือเป็น “วันปลอดควันพิษจากไฟป่า” โดยในปีนี้กรมป่าไม้ได้จัดกิจกรรมรณรงค์วันปลอดควันพิษจากไฟป่าขึ้นที่สนามกีฬากลาง จ.เลย ซึ่งมีป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณจำนวนมาก และเป็นพื้นที่ระดับเสี่ยงมากต่อการเกิดไฟป่า โดยจากสถิติการเกิดไฟป่าเมื่อปี 2552 มีไฟป่าเกิดขึ้น 5,356 ครั้ง จ.เลย เกิดไฟป่าเกิดขึ้น 116 ครั้ง มีพื้นที่เสียหายกว่า 1,876 ไร่
กิจกรรมในวันดังกล่าว ประกอบด้วย การเดินรณรงค์ป้องกันไฟป่า การจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับไฟป่า การแข่งขันตอบปัญหาเรื่องไฟป่า การแข่งขันแต่งแฟนซี หรือละครเวที เพื่อรณรงค์ป้องกันไฟป่า การมอบรางวัลผลการแข่งขันการประกวดคำขวัญ ภาพวาด ภาพถ่าย ในหัวข้อการมีส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกันไฟป่า และการปล่อยขบวนรถประชาสัมพันธ์ไฟป่าเคลื่อนที่ไปตามท้องที่ที่ติดกับเขตป่าและเสี่ยงที่จะเกิดไฟป่า
ล่าสุดมีรายงานจากรมอุตนิยมวิทยาว่า ในพื้นที่อีสานปีนี้จะมีความแห้งแล้งสูงมากที่สุดในปีนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดเลยนั้นก็เป็นพื้นที่เสี่ยงมากจุดหนึ่ง ที่ต้องระวังเรื่องไฟป่า หากไม่มีการเตรียมความพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ อุปกรณ์ ตลอดจนการเข้าไปรณรงค์ในพื้นที่ ที่เสี่ยงในการเกิดไฟป่า เพื่อให้ประชาชนได้ตื่นตัว เตรียมรับสู้กับไฟป่าที่เกิดขึ้นได้
ไฟป่าไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อพรรณพืชธรรมชาติ สัตว์ป่า สภาพดิน และน้ำแล้ว ยังก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สิน และสุขภาพร่างกายของคนด้วย โดยหมอกควันที่ลอยอยู่จะมีฝุ่นละอองและควันพิษ ทำให้ประชาชนป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภัยแล้ง ก่อให้เกิดสภาวะเรือนกระจกและโลกร้อน
นายสมชัยกล่าวถึงกรณีที่กลุ่ม นปช.ออกมาระบุว่าจะมีการจัดเจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติออกไปร่วมชุมนุมเป็นกองกำลังต่อต้านกับกลุ่ม นปช.ว่า ตนได้ทำหนังสือแจ้งไปยังหน่วยงานที่มีอาวุธเพื่อการดูแลรักษาป่า ไม่ให้เคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ในช่วงนี้ หากจำเป็นต้องแจ้งตนก่อน ยืนยันว่าจะไม่มีเจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้เข้าไปร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองของฝ่ายใดแน่นอน
