ชาวอำเภอน้ำโสมร่วมรณรงค์ปลอดควันพิษจากไฟป่า

อุดรธานี - อำเภอน้ำโสมรณรงค์ปลอดควันพิษจากไฟป่า หวังสร้างจิตสำนึกมวลชนร่วมกันป้องกันไฟป่าที่มักเกิดขึ้นในเขตอุทยานทุกปีในหน้าแล้ง ทั้งยังร่วมกันอนุรักษ์ป่าสมบูรณ์ตามธรรมชาติ

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานีว่า วันนี้ (24 ก.พ.) ที่สนามสระศรีมงคล หน้าที่ว่าการอำเภอน้ำโสม จ.อุดรธานี นายกอบเกียรติ กาญจนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานเปิดงานวันรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า ประจำปี 2553 ซึ่งส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 อุดรธานี เป็นผู้จัดขึ้น โดยมีส่วนราชการ นักเรียน นักศึกษา กลุ่มพลังมวลชน เข้าร่วมงานกว่า 2,000 คน

นายสว่าง เฟื่องกระแสร์ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 อุดรธานี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2543 กำหนดให้วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็นวันรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า และให้ทุกหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องรณรงค์หยุดการเผาป่าเพื่อลดหมอกควันพิษในอากาศ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 อุดรธานี

โดยส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า และหน่วยงานควบคุมไฟป่าในพื้นที่รับผิดชอบ จึงได้จัดทำโครงการวันรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า 24 กุมภาพันธ์ ประจำปี 2553 ขึ้น

โดยในปีนี้ได้ดำเนินการที่ จ.อุดรธานี เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ป่าอนุรักษ์และสถานที่สำคัญหลายแห่ง ได้แก่ อุทยานแห่งชาตินายูง-น้ำโสม วนอุทยานภูผาแดง วนอุทยานภูพระบาทบัวบก วัดป่าภูก้อน เป็นต้น ประกอบกับในฤดูแล้งของทุกปี ในท้องที่อำเภอน้ำโสม จ.อุดรธานี มักประสบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการเกิดไฟป่าอยู่เป็นประจำ

ทั้งนี้ เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพด้านการเกษตรกรรม ซึ่งมักจะกำจัดวัชพืชหรือเตรียมจัดพื้นที่ด้วยวิธีการเผา ดังนั้นจึงได้จัดกิจกรรมขึ้น

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนทุกภาคส่วนในท้องที่ จ.อุดรธานี และจังหวัดใกล้เคียง ระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่จะก่อให้เกิดไฟป่า ตระหนักถึงอันตรายของไฟป่า และเกิดจิตสำนึกในการป้องกันและสนับสนุนการดับไฟป่า ซึ่งกิจกรรมประกอบด้วยการเดินรณรงค์เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการจุดไฟเผาป่าและช่วยกันป้องกันไฟป่า การสาธิตการแสดงกายบริหารประกอบเครื่องมือดับไฟป่า

การจัดนิทรรศการความรู้เรื่องไฟป่า การแข่งขันตอบปัญหาความรู้เรื่องไฟป่า การแข่งขันการใช้อุปกรณ์ดับไฟป่า การแข่งขันประกวดภาพวาด การประกวดคำขวัญ การประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ โดยเจ้าหน้าที่ออกดำเนินการแบบเคาะประตูบ้านพร้อมแจกเอกสารเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับไฟป่า

นายกอบเกียรติ กาญจนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ไฟป่า นับว่าเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ทั่วโลกให้ความสนใจเป็นอย่างมาก การเกิดไฟป่าทำให้ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสุขภาพอนามัย ชีวิตและทรัพย์สินของมนุษย์ นอกจากนั้นแล้วยังเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำโดยเฉพาะในช่วงฏดูแล้งของทุกปี เมื่อเกิดไฟป่าขึ้นในแต่ละครั้ง

นอกจากจะเกิดความเสียหายต่อทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าแล้ว ยังทำให้ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ ทำให้เกิดมลภาวะทางกาอาศ มีหมอกควันหนาทึบ ก่อให้เกิดปรากฎการณ์เรือนกระจกที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน

ไฟป่าที่เกิดขึ้นในประเทศไทยนั้นจากการศึกษาวิจัยพบว่าสาเหตุของการเกิดไฟป่า ส่วนใหญ่เกิดจากกระกระทำของมนุษย์แทบทั้งสิ้น ดังนั้น การแก้ไขปัญหาไฟป่า จะต้องแก้ที่คน ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทุกหมู่เหล่า ในการที่จะป้องกันและระมัดระวังไม่ให้เกิดไฟป่า ตลอดจนให้ความร่วมมือสนับสนุนการดับไฟป่าและแจ้งเหตุไฟไหม้ป่าต่อเจ้าหน้าที่ป่าไม้ กำนัน และผู้ใหญ่ เพื่อจะได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยในการดับไฟป่า เพราะหากเกิดไฟป่าแล้วรีบช่วยกันดับก็จะสามารถคบคุมได้ง่ายขึ้น แต่หากปล่อยไว้นานไฟก็จะไหม้เป็นบริเวณกว้างและยากต่อการควบคุม