xs
xsm
sm
md
lg

“จุมพล” ลงพื้นที่ประชุม ตร.อีสานใต้ - สั่งจับตาแดงถ่อยป่วนยึดทรัพย์“นช.แม้ว” เชื่อมั่นรับมือไหว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.อ.จุมพล รอง ผบ.ตร. รุดลงพื้นที่ภาค 3 ประชุมบิ๊กตำรวจ 8 จว.อีสานใต้เตรียมพร้อมกำลังพล สั่งจับตาความเคลื่อนไหวม็อบเสื้อแดงป่วนก่อนและหลังศาลตัดสินยึดทรัพย์ “นช.แม้ว” วันนี้ ( 23 ก.พ.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “พล.ต.อ.จุมพล” รอง ผบ.ตร. รุดลงพื้นที่ภาค 3 เรียกประชุมบีกตำรวจ 8 จว.อีสานใต้เตรียมความพร้อมกำลังพล สั่งเกาะติดความเคลื่อนไหวม็อบเสื้อแดงป่วนช่วงก่อนและหลังวันยึดทรัพย์ 7.6 หมื่น “นช.แม้ว” เผยภาคอีสานจับตา 16 จังหวัดตามบัญชีดำสตช. ชี้คนไทยคุยกันรู้เรื่อง การพิพากษาเป็นเรื่องกระบวนการของกฎหมาย เชื่อมั่นใจตำรวจรับมือไหวควบคุมสถานการณ์ได้

วันนี้ (23 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่หอประชุมสารสิน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้เดินทางมาเป็นประธานมอบนโยบายในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงในพื้นที่เป้าหมายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16 จังหวัด แบ่งเป็นภาคอีสานตอนบน 10 จังหวัด และภาคอีสานตอนล่าง 6 จังหวัด

โดยมี พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค3 (ผบช.ภ.3) ให้การต้อนรับและกล่าวรายงานสรุปสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของมวลชนกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ แผนนปช. 53 และแผนการปฏิบัติงานรวมถึงมาตรการในภาครวมของตำรวจภูธรภาค 3 ซึ่งมีนายตำรวจระดับ รอง ผบช.ภ. 3 , ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ทั้ง 8 จังหวัดอีสานตอนล่าง,ผบก.สส.ตร.ภ. 3 และ ระดับ ผกก. 32 อำเภอของ จ.นครราชสีมา รวมกว่า 150 นาย เข้าร่วมประชุมรับฟังนโยบายอย่างพร้อมเพรียงกัน

พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า เดินทางมาในครั้งนี้ในฐานะที่กำกับดูแล ตำรวจภูธรภาค 3 และ ภาค 4 ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ภาคอีสานทั้ง 19 จังหวัด เพื่อมาให้กำลังใจข้าราชการตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ และมาดูแลความพร้อมของตำรวจที่มีหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยกรณีของกลุ่มผู้ชุมนุมของทุกกลุ่มในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 3 ซึ่งในพื้นที่ 8 จังหวัดอีสานล่างในความรับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 3 มีจังหวัดที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้กำหนดอยู่ในแผนที่จะต้องเฝ้าระวังดูแลเป็นพิเศษ 6 จังหวัด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการก่อความไม่สงบเกิดขึ้นในทุกจังหวัด

ในส่วนของตำรวจภูธรภาค 3 ได้มีการซักซ้อมเตรียมความพร้อมกันมาตั้งแต่ต้นเดือนก.พ.มาแล้ว ขณะนี้เป็นวงรอบที่ 2 ที่ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) และ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.)ทั้ง 8 จังหวัดได้ขอความร่วมมือกับทางจังหวัดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดอีกส่วนหนึ่งที่จะร่วมกันปฏิบัติงานตามแผนเผชิญเหตุต่างๆ โดยจะมีการป้องกันในกรณีที่มีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งในด้านการข่าวยังไม่ปรากฏว่า จะมีความรุนแรงอะไร แต่เราต้องเตรียมความพร้อมเอาไว้

“วันนี้มาตรวจความพร้อมและให้กำลังใจผู้ใต้บังคับบัญชาในพื้นที่ เพื่อทำความเข้าใจกันว่า เราจะต้องมีหน้าที่ มีภารกิจอย่างไรบ้าง เราคงย้ำในเรื่องของผู้ปฏิบัติ โดยอยากให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับลงไปชี้แจงทำความเข้าใจกัน” พล.ต.อ.จุมพล กล่าว

ส่วนการตั้งด่านตรวจขณะนี้มีทุกจังหวัด ทุกอำเภอในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่แล้วซึ่งเป็นไปตามแผนกรกฎ 52 รวมทั้งแผนเผชิญเหตุที่ สตช.ได้สั่งการมา โดยเรามีการสั่งการผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์กันทุกเช้าระหว่างศูนย์ปฏิบัติการของ สตช. กับตำรวจภูธรภาค 3 ,4 และทุกจังหวัด ซึ่งขณะนี้มีการปฏิบัติสรุปผลกันในตอนเช้าทุกวัน

พล.ต.อ.จุมพล กล่าวต่อว่า วันนี้ได้เน้นย้ำกับผู้ใต้บังคับบัญชาในระดับปฏิบัติขอให้ใช้ความเป็นตำรวจในส่วนที่เราต้องรับผิดชอบในการรักษาความสงบเรียบร้อยให้แก่ประชาชนให้มากที่สุด และการบังคับใช้กฎหมาย และการปฏิบัติงานต้องเป็นไปด้วยความละมุนละม่อม ซึ่งการทำความเข้าใจในการปฏิบัติภารกิจเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการควบคุมความไม่สงบ เชื่อมั่นว่าจะทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนได้ อันไหนที่ทำให้บ้านเมืองเสียหายหรือมีการทำลายทรัพย์สินของทางราชการหรือการทำผิดกฎหมายเราคงยอมไม่ได้ ซึ่งเราคงต้องปฏิบัติตามหน้าที่ แต่จะเน้นการทำความเข้าใจเป็นหลัก

ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงทั้ง 16 จังหวัดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ถูกจับตามมองเป็นพิเศษนั้น ตอนนี้ยังคงเป็นไปตามปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละพื้นที่กำลังติดตามหาข่าวอยู่ตลอดเวลา จนถึงขณะนี้ยังไม่พบว่ามีการเคลื่อนไหวอะไรที่จะนำไปสู่รุนแรง

พล.ต.ท.จุมพล กล่าวอีกว่า หากจะประเมินสถานการณ์ในช่วงก่อนและหลังวันที่ 26 ก.พ.ซึ่งเป็นวันตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่าจะเกิดความรุนแรงมากน้อยเพียงใดนั้น ก็เหมือนที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่ทุกวันนี้ ซึ่งเราภาวนาว่า เราเป็นคนไทยคงจะเข้าใจกันได้ การพิพากษาเป็นเรื่องกระบวนการของกฎหมาย ในส่วนที่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นก่อนหรือหลังอันนี้เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถที่จะคาดเดาได้ แต่ในทางการข่าวก็ต้องมี

“มาถึงวันนี้เชื่อมั่นได้ว่า ไม่ว่าก่อนหรือหลังตัดสินคดียึดทรัพย์ ตำรวจเราสามารถที่จะรับมือได้ และควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ได้ เพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และประชาชนไม่เดือดร้อน” พล.ต.อ.จุมพล กล่าว
พล.ต.อ.จุมพล รอง ผบ.ตร.



กำลังโหลดความคิดเห็น