xs
xsm
sm
md
lg

“กงสุลกัมพูชา”รุดเข้าพบศาลสุรินทร์ - คดีจำคุก 2 ปี 3 เดือน“6 ชาวเขมร”ลอบตัดไม้ไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายเนตร เสรี จนท.สถานกงสุลใหญ่กัมพูชา ประจำประเทศไทย และทนายชาวไทย เดินทางเข้าขอทราบรายละเอียดคดีศาลจ.สุรินทร์ตัดสินจำคุกชาวกัมพูชา ลอบตัดไม้ชายแดนไทย 6 คน วันนี้ (23 ก.พ.)
สุรินทร์- จนท.สถานกงสุลใหญ่กัมพูชา ประจำประเทศไทย เดินทางเข้าพบผู้พิพากษาหัวหน้าศาลสุรินทร์ ขอทราบรายละเอียดคดีศาลตัดสินจำคุกชาวกัมพูชา 6 คนๆ ละ 2 ปี 3 เดือนฐานลักลอบเข้าเมืองตัดไม้ในป่าสงวนฯ -เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯชายแดนไทย เผยจำเลยทั้ง 6 ให้การสารภาพศาลลดโทษให้กึ่งหนึ่งจากความผิด 3 กระทงจำคุก 4 ปี 6 เดือนเหลือ 2 ปี 3 เดือน ชี้อยู่ระหว่างจำเลยสามารถยื่นอุทธรณ์ฎีกาคำพิพากษาและขอปล่อยตัวชั่วคราวได้

วันนี้ (23 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ศาลจังหวัดสุรินทร์ ถ.หลักเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายเนตร เสรี เจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ประเทศกัมพูชา ประจำประเทศไทย อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อมด้วย นายประสาท ไพดี ทนายความชาวไทย เดินทางมาทำหนังสือขอเข้าพบ นายวีระพล ปุณนารี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสุรินทร์ เพื่อขอทราบรายละเอียด การดำเนินคดีกับชาวกัมพูชาจำนวน 6 คน ที่ถูก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์จับกุม เมื่อเดือน ม.ค. 2553 ที่ผ่านมา

โดยนายเนตร เสรี เจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ประเทศกัมพูชา ประจำประเทศไทย แจ้งว่า มาติดตามความคืบหน้าและรายละเอียดของคดี เพื่อนำไปแจ้งให้แก่ญาติพี่น้องของผู้ต้องหาชาวกัมพูชาได้รับทราบ ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ถูกศาลจังหวัดสุรินทร์ พิพากษาลงโทษ จำคุก คนละ 2 ปี 3เดือน ขณะนี้ถูกจำคุกที่เรือนจำกลางจังหวัดสุรินทร์

ทั้งนี้ คดีดังกล่าว เป็นคดีหมายเลขดำ ที่ 179/2553 ลงวันที่ 19 ก.พ.2553 พนักงานอัยการจังหวัดสุรินทร์ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายวัน มอน อายุ 52 ปี เป็นจำเลยที่ 1, นายรุน ดอย อายุ 23 ปี เป็นจำเลยที่ 2 นางซาน เร็ด อายุ 33 ปี เป็นจำเลยที่ 3 นางชื่น ก้อด อายุ 37 ปี เป็นจำเลยที่ 4,นางจาน โอน อายุ 42 เป็นจำเลยที่ 5,และนางจอย มือ อายุ 22 ปี เป็นจำเลยที่ 6 ซึ่งผู้ต้องหาชาวกัมพูชาทั้ง 6 คน เป็นชาวบ้านโอว์เสม็ด อ.สำโรง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา

ฐานความผิด ร่วมกันมีของป่าหวงห้าม(หวาย) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันกระทำการอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ,ร่วมกันตัดหรือทำลายต้นไม้หรือพฤกษชาติอื่นในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย

การเข้าพบดังกล่าว ทางศาลจังหวัดสุรินทร์ ได้ชี้แจงแก่ นายเนตร เสรี เจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ประเทศกัมพูชา ประจำประเทศไทย อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อม นายประสาท ไพดี ทนายความชาวไทย ว่า ผู้ต้องหาทั้ง 6 คน พนักงานอัยการจังหวัดสุรินทร์ ได้ยื่นฟ้อง ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ป่าไม้ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ และ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง เมื่อถึงวันนัดสอบปากคำให้การจำเลยทั้ง 6 ศาลได้จัดหาล่ามภาษาเขมรและสอบถามจำเลยทั้ง 6 แล้ว จำเลย ทั้ง 6 ไม่ต้องการทนายความ จึงอ่านอธิบายฟ้องให้จำเลยทั้ง 6 ฟัง จำเลยทั้ง 6 ให้การรับสารภาพ

ศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยทั้ง 6 ฐานเป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง จำคุกคนละ 6 เดือน ฐานร่วมกันทำให้เสื่อมเสียสภาพป่าสงวนแห่งชาติจำคุกคนละ 3 ปี ฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งของป่าหวงห้าม จำคุกคนละ 1 ปี ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยทั้ง 6 คนละ 2 ปี 3 เดือน ซึ่งศาลได้พิจารณาพิพากษาคดีและให้ความเป็นธรรมแก่จำเลยทั้ง 6 คน ตามหลักกฎหมายโดยเท่าเทียมกัน กับประชาชนชาวไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างที่จำเลยทั้ง 6 คน มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาคำพิพากษาของศาลและขอปล่อยชั่วคราวได้ตามกฎหมายไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากนาย เนตร เสรี เจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ประเทศกัมพูชา ประจำประเทศไทย ได้รับฟังคำชี้แจงจาก ศาลจังหวัดสุรินทร์ ก็ได้เดินลงมาขึ้นรถยนต์ เดินทางกลับจ.สระแก้วโดยทันที ไม่ให้สัมภาษณ์ หรือเปิดเผยรายละเอียด การเข้าพบผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสุรินทร์ แก่ผู้สื่อข่าว

ขณะที่ นายประสาท ไพดี ทนายความชาวไทย บอกเพียงว่า ไม่มีการให้สัมภาษณ์ และไม่ทราบว่ากงสุลใหญ่ ประเทศกัมพูชาที่เดินทางมา ชื่อว่าอะไร จากนั้นได้เดินทางออกจากศาลจังหวัดสุรินทร์ ทันทีเช่นกัน






กำลังโหลดความคิดเห็น