ฉะเชิงเทรา – "หางแดง" แปดริ้วหมดราคา หลังไร้หัวโจ๊กก่อหวอดนำขบวนเคลื่อนทัพก่อม็อบบุกเมืองกรุงปลายเดือนนี้ ทำสถานการณ์ในพื้นที่นิ่งสนิท เชื่อหาแนวร่วมขนคนไปรวมตัวจากในพื้นที่ได้ยาก เผยหากปลุกระดมในช่วงปลายเดือนอย่างสุดแรง ก็อาจได้คนแค่เพียงสามคันรถบัสเท่านั้น
วันนี้ (23 ก.พ.53) เวลา 12.00 น.ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากทีมงานกระบอกเสียงของกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา เกี่ยวกับสถานการณ์การเตรียมตัวเดินทางไปชุมนุมเคลื่อนไหวในกรุงเทพฯช่วงการพิจารณาตัดสินคดียึดทรัพย์ อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรว่า ขณะนี้สถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรานั้นเป็นไปอย่างนิ่งเงียบ ไม่มีการเคลื่อนไหว หรือได้รับการติดต่อเพื่อทำการปลุกระดมมวลชนจากแกนนำในเครือข่ายภายในจังหวัดแต่อย่างใด ทั้งที่ใกล้จะถึงวันที่จะมีการพิจารณาตัดสินคดียึดทรัพย์ของอดีตนายกฯ แล้วก็ตาม
ทั้งนี้ อาจมีเหตุผลมาจากหลายประการ ซึ่งมองได้ว่าในส่วนของแกนนำหลักยังไม่ต้องการให้แผนการเคลื่อนไหวนั้นรั่วไหลเร็วเกินไป โดยอาจจะมีการประกาศนัดเคลื่อนไหวหลังจากที่มีการตัดสินในคดียึดทรัพย์ไป แล้วก็ได้ และคาดว่าอาจจะทราบแนวทางที่แน่ชัดใน วันที่ 28 ก.พ.นี้ หลังจากที่กลุ่มคนเสื้อแดงจากทางภาคอีสาน โดยเฉพาะจาก จ.อุดรธานี ได้นำขบวนรถอีแต๋น และรถกระบะ นับพันๆ คัน เดินทางมารวมตัวกันที่ จ.นครราชสีมา ในวันที่ 27 ก.พ.นี้ เพื่อที่จะเดินทางเข้ามาชุมนุมในกรุงเทพฯ ในวันที่ 1 มี.ค.53
โดยที่กลุ่มคนเสื้อแดงในภาคอีสานนั้น ทางแกนนำสามารถที่จะตรวจเช็คยอดจำนวนคนได้อย่างแม่นยำกว่า ในพื้นที่ภาคอื่นๆ เนื่องจาก การที่แกนนำได้เคยลงไปทำงานช่วยเหลือสังคม ดูแลชาวบ้านในด้านต่างๆ ให้กับคนในพื้นที่ และมีการเปิดรับสมัครสมาชิก และทำบัตรสมาชิก นปช.ให้ด้วย โดยที่มี นายวีระ มุสิกพงษ์ เป็นผู้ลงนามในบัตร ซึ่งการเคลื่อนไหวนั้น ไม่ว่าคำตัดสินของศาลจะออกมาอย่างไร ยึดทรัพย์หรือไม่ยึดทรัพย์ กลุ่มคนเสื้อแดงก็จะต้องออกมาเคลื่อนไหวอยู่แล้ว
แต่สำหรับการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงในพื้นที่แปดริ้วนั้น เงียบลงอย่างผิดปกติมาก หรืออาจเป็นเพราะว่า มีการเคลียร์กันได้ โดยการตัดสินอาจจะยึดทรัพย์เพียงบางส่วน หรือยกฟ้อง และอีกกรณีหนึ่ง อาจเป็นเพราะในพื้นที่ขาดแกนนำหลักไป หลังจากสูญเสีย ส.อ.อานุโพธิ์อ่อน นายก อบต.หนามแดง และอดีต ส.อบจ.ฉะเชิงเทรา ที่ถูกกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงเสียชีวิตไปเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เพราะถือได้ว่าเขาเป็นแกนนำที่มีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนไหวในทุกครั้งที่ ผ่านมา จนทำให้คนเสื้อแดงที่แปดริ้ว หมดแกนนำที่จะสามารถเป็นเครือข่ายในการติดต่อประสานงานกับแกนนำส่วนกลางได้
ส่วน ส.ส.เสื้อแดงในพื้นที่นั้น ที่ผ่านมาเขาก็ไม่ได้ออกมาร่วมเคลื่อนไหวแบบเคียงบ่าเคียงไหล่กับกลุ่มคน เสื้อแดงในพื้นที่อย่างชัดเจน โดยจะเก็บตัวอยู่แต่เบื้องหลังเท่านั้น จนถูกแกนนำคนอื่นๆ กล่าวหาว่าไม่ให้การช่วยเหลือสนับสนุนในการเคลื่อนไหวเท่าที่ควร ซึ่งตนก็เห็นด้วยกับการวางตัวของเขา เนื่องจากเขาเป็น ส.ส. ก็ควรที่จะไปเคลื่อนไหวในสภา ส่วนการเคลื่อนไหวของตนนั้น ตนก็ไม่ได้เห็นด้วยกับคนเสื้อแดงในทุกๆ เรื่อง แต่เห็นด้วยเป็นบางเรื่อง เนื่องจากตนมีความคิดเห็นเป็นของตนเอง
สำหรับคนเสื้อแดงในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา หากได้รับการติดต่อให้มีการเคลื่อนไหวนั้น คาดว่าจะมีจำนวนคนไม่เกิน 2-3 ร้อยคน เท่านั้น เพราะดูจากการเคลื่อนไหวในครั้งที่ผ่านๆ มา จะมีรถบัสนำคนไปร่วมชุมนุมเพียง 2-3 คันเท่านั้น และเคยมีมากสูงสุดเพียงแค่ 5-6 คันรถบัส เนื่องจากไม่มีแกนนำ ไม่มีนักสู้จริงๆ คนที่มีอุดมการณ์ก็มี แต่ไม่มีปัจจัยในการเคลื่อนไหว เนื่องจากแกนนำขัดแย้งกันเอง เพราะบางคนก็เข้ามาหาผลประโยชน์ ยึดการเคลื่อนไหวเป็นอาชีพ แต่เงินออกมาจากกระเป๋าเดียว หากสู้ยืดเยื้อไปไม่แตกหักคนจ่ายก็จ่ายไม่ไหว กระบอกเสียงจากคนเสื้อแดงแปดริ้ว