จันทบุรี - ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีลงพื้นที่ ดูการผันน้ำช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้ใน 2 อำเภอ เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง หลังพื้นที่นี้เกิดปัญหาภัยแล้งทุกปี
วันนี้(23 ก.พ.53 ) นายพูลศักดิ์ ประณุทนรพาล ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรีพร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ หมู่ที่ 3 ตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี และพื้นที่ หมู่ 9 ตำบลวังโตนด อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี ที่จังหวัดได้ประกาศให้เป็นพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉินภัยแล้ง
ทั้งนี้ เพื่อดูการสูบน้ำและผันน้ำจากคลองโตนด ลงไปช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้ที่ประสบปัญหาภัยแล้งใน 2 อำเภอ โดยมีนายสุธี ทองแย้ม นายอำเภอนายายอาม นายเสริม อุ่นชู นายอำเภอท่าใหม่ พร้อมด้วยนายก อบต. เทศบาลให้การต้อนรับพร้อมนำผู้ว่าราชการจังหวัดดูการสูบน้ำและผันน้ำด้วยเครื่องสูบน้ำด้วยท่อน้ำขนาดใหญ่และใช้แรงดันสูง
สำหรับพื้นที่ทั้ง 2 อำเภอ คือ อำเภอท่าใหม่ และ อำเภอนายายอาม เป็นพื้นที่ที่มีการทำการเกษตรปลูกสวนผลไม้กว่า 2 แสนไร่ และในช่วงนี้ผลผลิตเริ่มมีการออกดอกและออกผลกันแล้วทำให้เกษตรกรชาวสวนผลไม้ในหลายหมู่บ้าน ต้องการน้ำที่จะนำมาใช้ในการรดสวนผลไม้เป็นอย่างมากเพื่อไม่ให้ผลผลิตที่กำลังออกดอกและออกผลเกิดความเสียหาย หรือยืนต้นตาย และในปัจจุบันปัญหาน้ำในแหล่งน้ำ หรือฝายต่างๆ
รวมทั้งสระน้ำของเกษตรกรชาวสวนเริ่มมีปริมาณน้ำลดลงจึงทำให้ทางจังหวัดต้องลงมาให้ความช่วยเหลือเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเกษตรกรชาวสวนผลไม้ต้องแย้งน้ำกัน รวมทั้งพื้นที่ดังกล่าวเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำซากทุกปีและน้ำในคลองโตนดนี้จะสามารถใช้ได้เพียงอีก 75 วันก็จะหมดลง
ดังนั้น ในวันนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี จึงได้สั่งการให้นายอำเภอทั้ง 2 อำเภอหาทางแก้ไขปัญหาภัยแล้ง โดยการขอการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำและท่อขนาดใหญ่ที่มีขนาด 24 นิ้ว จากชลประทานจังหวัดจันทบุรีมาดำเนินการสูบน้ำ และผันน้ำจากคลองโตนดลงช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้ทั้ง 2 อำเภอเป็นการเร่งด่วน
ทั้งนี้ จังหวัดจะเป็นผู้ให้การสนับสนุนช่วยเหลือในงบประมาณค่าเชื้อเพลิงให้ ซึ่งในวันนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้ลงพื้นที่เพื่อดูการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการสูบน้ำและผันน้ำลงให้การช่วยเหลือเกษตรกร
เครื่องสูบน้ำเครื่องนี้สามารถสูบน้ำได้ต่อวัน วันละ 1300 คิว และจะดำเนินการสูบน้ำและผันน้ำวันละ 20-22 ชั่วโมงทุกวัน และจะใช้น้ำมันเชื้อเพลิงวันละ 600 ลิตรเพื่อเร่งให้เกษตรกรได้มีน้ำไว้ใช้อย่างเพียงพอในช่วง 1-2 เดือน ข้างหน้านี้แต่ถึงอย่างไรถ้าฝนยังไม่ตกลงมาทางจังหวัดก็มีแผนรองรับ โดยการให้ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรีทำการขุดลอกคลองต่อไป
นายพูลศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในเรื่องนี้ทางจังหวัดมีความเป็นห่วงเกษตรกรเป็นอย่างมากและพร้อมที่จะให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนโดยเฉพาะพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งในส่วนนี้เกษตรกรสามารถร้องขอความช่วยเหลือผ่านมาทางอำเภอ หรือ อบต. และเทศบาลในแต่ละพื้นที่ได้ นอกจากนี้ทางจังหวัดขอความร่วมมือให้เกษตรกร หรือ ประชาชนได้ช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัดไม่ควรสูบเกินความจำเป็น ทั้งนี้เพื่อให้มีน้ำไว้ใช้ยามหน้าแล้งอย่างเพียงพอต่อไปอีกด้วย
ด้านนางอรนันท์ สุทธิประภา เกษตรกรชาวสวนผลไม้ตำบลนายายอาม กล่าวว่า ปัญหาน้ำในขณะนี้เริ่มลดลงและเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทุกปีคาดใน 1-2 เดือนนี้ถ้าฝนยังไม่ตกลงมาเกษตรกรจะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากโดยเฉพาะผลผลิต เช่น ทุเรียน มังคุด และ ลองกอง ที่เริ่มออกดอกและออกผลจะต้องได้รับความเสียหายอย่างแน่นอนการที่ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงมาให้การช่วยเหลือในครั้งนี้จะเป็นการเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น