จันทบุรีประกาศ 7อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินภัยแล้ง

จันทบุรี - จังหวัดจันทบุรีประกาศพื้นที่ 7อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ภัยแล้งแล้ว ขณะที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี จัดเตรียมอุปกรณ์รถน้ำออกให้การช่วยเหลือ

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี เปิดเผยว่า สถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้เกิดขึ้นเร็ว ทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บกักน้ำ หรือ เขื่อนต่างในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีเริ่มมีปริมาณน้ำลดน้อยลง ทำให้ประชาชนและเกษตรกรใน 7 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอโป่งน้ำร้อน อำเภอสอยดาว อำเภอขลุง อำเภอท่าใหม่ อำเภอมะขาม อำเภอนายายอาม และอำเภอแก่งหางแมว เริ่มขาดแคลนน้ำในการนำไปรดพืชผลทางการเกษตร และผลไม้

ทั้งนี้ เนื่องจากจังหวัดจันทบุรีมีการเพาะปลูกผลไม้เป็นส่วนใหญ่ ทำให้ในขณะนี้จังหวัด โดยนายพูลศักดิ์ ประณุทนรพาล ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีต้องมีการประกาศให้ 7 อำเภอดังกล่าวเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ภัยแล้ง และจำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือ โดยเร่งด่วนและภัยพิบัติดังกล่าวยังไม่สิ้นสุด จังหวัดได้มอบหมายให้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรีเป็นหน่วยงานหลักในการออกให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งให้มีการประสานความร่วมมือกับอบต. เทศบาลทุกแห่งในการจัดเตรียมรถน้ำ การจัดเตรียมอุปกรณ์ เจ้าหน้าที่ ให้มีการเตรียมพร้อมเมื่อมีประชาชน หรือ เกษตรกรร้องขอความช่วยเหลือมา รวมทั้งในการจัดทำฝายชะลอน้ำ หรือ การขุดสระน้ำ เป็นต้น

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี กล่าวเสริมอีกว่า แต่ถึงอย่างไรขอให้ประชาชนและเกษตรกร ควรมีการใช้น้ำอย่างประหยัดไม่ควรสูบน้ำเข้าสระ หรือบ่อเก็บกักน้ำของตัวเองโดยเกินความจำเป็นควรจะสูบน้ำตามความเหมาะสม รวมถึงเกษตรกรไม่ควรปลูกข้าวนาปรังในช่วงนี้ เพราะจะทำให้น้ำที่มีอยู่จะหมดลงโดยเปล่าประโยชน์ในส่วนนี้ประชาชน หรือ เกษตรกรรายใดมีความต้องการน้ำขอให้แจ้งไปที่ อบต. และเทศบาลแต่ละท้องที่ได้ตลอดเวลาหรือถ้ารถน้ำของ อบต.และเทศบาลใดมีไม่เพียพอสามารถแจ้งความจำนงมาได้ ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดได้ ที่ สำนักงานจะออกไปให้การช่วยเหลือต่อไป