xs
xsm
sm
md
lg

เชียงใหม่เข้มวินัยจราจรแค่ครึ่งวันบนถนนสายเดียวรวบ 200 ราย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – เชียงใหม่นำร่องเข้มงวดวินัยจราจรบนถนนโชตนาแค่ครึ่งวันเช้ารวบผู้ขับขี่ทำผิดกฎหมายจราจรได้ว่า 200 ราย ขณะที่สี่แยกรินคำ ทดลองใช้ CCTV จับคนขับรถฝ่าสัญญาณไฟแดงชั่วโมงเดียวได้ 14 ราย แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เพียงแค่ทำการตักเตือนก่อนเริ่มมาตรการเด็ดขาด “ตรวจ-จับ-ปรับจริง” 1 เม.ย.53 นี้

เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครโครงการถนนปลอดภัย(ถนนสีขาว) จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งดำเนินการนำร่องบนถนนโชตนา ในตัวเมืองเชียงใหม่ ตั้งแต่บริเวณแยกข่วงสิงห์ ถึงแยกกองพันสัตว์ต่าง อำเภอแม่ริม ในการรณรงค์ให้ผู้ขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ปฏิบัติตามกฎหมายและวินัยจราจรอย่างเคร่งครัดได้ออกทำการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง ด้วยการแจกใบปลิวประชาสัมพันธ์โครงการ พร้อมทั้งมีกลุ่มเหยื่อเมาแล้วขับ ร่วมชูป้ายรณรงค์ บริเวณสี่แยกข่วงสิงห์

โดยการดำเนินการตามโครงการนี้ทางเจ้าหน้าที่จะทำการตั้งด่านตรวจวินัยจราจรตามมาตรการ 3ม 2ข 1ร อย่างเคร่งครัด บนถนนโชตนา ซึ่งเบื้องต้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 53 จะเน้นรณรงค์และประชาสัมพันธ์โครงการด้วยการตรวจและทำการอบรมวินัยจราจรเท่านั้น โดยตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.53 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตั้งด่านตรวจเป็นประจำทุกวันในช่วงเวลาตั้งแต่ 09.00-15.00 น. และตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.53 เป็นต้นไป จะทำการตรวจจับดำเนินคดีตามกฎหมายทุกกรณีไม่มีข้อยกเว้น ขณะที่บริเวณสี่แยกรินคำในตัวเมืองเชียงใหม่ มีการทดลองใช้กล้อง CCTV ในการตรวจจับผู้ขับขี่ฝ่าสัญญาณไฟแดงด้วย

นายวรวิทย์ อินต๊ะใจ นักวิเคราะห์นโยบายและแผน สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในวันเปิดตัวโครงการวันแรกเมื่อวันที่ 17 ก.พ.53 เฉพาะในช่วงเวลาเช้าที่เจ้าหน้าที่ทำการทดลองตั้งด่านตรวจบนถนนโชตนา บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ พบมีผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรมากถึงประมาณ 200 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ขับขี่รถจักยายนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย ซึ่งเจ้าหน้าที่ให้เข้ารับการอบรมวินัยจราจรบริเวณด่านตรวจและในกรณีไม่มีหมวกนิรภัยก็ให้ซื้อแทนการเสียค่าปรับ

ในส่วนของบริเวณสี่แยกรินคำ ในตัวเมืองเชียงใหม่นั้น จากการสุ่มตรวจเพียงประมาณ 1 ชั่วโมงในวันเดียวกันนั้น สามารถใช้กล้อง CCTV บันทึกภาพและจับผู้ขับขี่รถฝ่าสัญญาณไฟแดงได้จำนวน 14 ราย โดยเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ควบคุมกล้องได้ประสานแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดักรออยู่ห่างออกไปประมาณ 100-200 เมตร แสดงตัวจับกุมพร้อมหลักฐาน ซึ่งผู้กระทำความผิดทั้งหมดต่างยอมรับสภาพผิด แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เพียงทำการตักเตือนเท่านั้น ก่อนจะเริ่มมาตรการเด็ดขาดจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้นทุกกรณีตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.53 เป็นต้นไป ทั้งบนถนนโชตนา และสี่แยกรินคำ

สำหรับการดำเนินการตามโครงการนี้นั้น นายวรวิทย์ กล่าวว่า หลังจากที่ดำเนินการไปแล้วจะมีการประเมินผลและวิเคราะห์ข้อมูลว่าทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัดมากขึ้นหรือไม่ โดยหากได้ผลดีจะมีการขยายผลไปดำเนินการในถนนและทางแยกอื่นๆ ทั่วเมืองเชียงใหม่ต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น