แก๊งหลอกโอนเงินอาละวาดหนักสาวใหญ่-นักข่าวเชียงรายโดยถ้วนหน้า

เชียงราย – แก๊งมิจฉาชีพหลอกโอนเงินผ่านเอทีเอ็ม-บัตรเครดิตอาละวาดหนัก ล่าสุดที่เชียงรายมีเหยื่อถูกหลอกแล้วกว่าล้านบาท ไว้เว้นแม้นักข่าวก็โดนด้วย

พ.ต.อ.จรัญฌิ์ เริงธรรม ผกก.สภ.เมืองเชียงราย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีขบวนการหรือแก๊งมิจฉาชีพที่หลอกลวงให้คนทั่วไปโอนเงินไปให้หรือข่มขู่ให้โอนเงินให้ออกอาระวาดในพื้นที่ จนทำให้มีผู้เข้าไปแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจแล้วหลายราย โดยเมื่อรวมมูลค่าความเสียหายที่กระทำกับเหยื่อมีมากกว่า 1 ล้านบาท

โดยการหลอกลวงใช้หลากหลายวิธีการ ยกตัวอย่างกรณีหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งขอสงวนชื่อและนามสกุล อายุราว 44 ปี ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจว่าได้รับโทรศัพท์จากหญิงคนหนึ่ง ฟังจากน้ำเสียงน่าจะมีอายุประมาณ 30 ปีอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารกสิกรไทย สาขาราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯแจ้งว่า ผู้รับสายยังไม่ได้ชำระค่าบัตรเครดิตของธนาคาร ทั้งๆ ที่หญิงสาวที่เป็นเหยื่อก็ไม่เคยใช้บัตรเครดิตกับธนาคารกสิกรไทยมาก่อนเลย แต่หญิงที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารกลับบอกอีกว่าอาจมีญาตินำบัตรประชาชนไปทำธุระกรรม แต่ก็ไม่ได้แจ้งให้ทำอย่างไรต่อไปและวางสายไปในที่สุด

วันเดียวกันได้มีชายอีกคนหนึ่งได้โทรศัพท์ไปหาหญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่ออีก โดยคราวนี้อ้างตัวเองว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมสืบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ.ระบุว่าทางธนาคารกสิกรไทยได้แจ้งความกับดีเอสไอ.ว่า ได้มีผู้นำหลักฐานปลอมไปทำบัตรเครดิตโดยมีรายชื่อของหญิงสาวเข้าไปเกี่ยวข้องในคดีด้วย

จากนั้นโทรศัพท์ลึกลับก็ยังโทรไปหาไม่หยุด ครั้งนี้เป็นชายคนใหม่อ้างว่าเป็นตำรวจยศ พ.ต.ท.ตำแหน่งสารวัตรปราบปราม แจ้งว่ากำลังติดตามจับกุมผู้ที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีปลอมบัตรเครดิตดังกล่าว ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับก็ให้หญิงสาวได้ไประงับบัตร โดยให้เดินทางไปยังตู้เอทีเอ็มที่ใกล้ที่สุด ทำให้หญิงสาวเกิดความกลัวเพราะมีโทรศัพท์เข้าไปหลายครั้งจนน่าเชื่อถือ จึงนำบัตรเครดิตที่ทำกับธนาคารกรุงไทย เดินทางไปยังสาขาท่าอากาศยานเชียงราย ต.บ้านดู่ อ.เมือง จากนั้นสอดบัตรและทำรายการตามที่ชายที่อ้างว่าเป็นตำรวจแจ้งให้ทราบ โดยมีการกดเป็นหมายเลขบัญชีจำนวน 3 ครั้ง

พ.ต.อ.จรัญฌิ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามเมื่อวางหูโทรศัพท์จากชายที่อ้างว่าเป็นตำรวจไปแล้ว ปรากฏว่าใบบันทึกรายการจากตู้เอทีเอ็มที่ออกมากลับระบุว่าเป็นการโอนเงินจำนวน 69,876 บาท ไปเข้าบัญชีผู้อื่นเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวจึงตกใจและรีบแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองเชีงงราย ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้รวบรวมข้อมูลหลักฐานและประสานไปยังธนาคารกสิกรไทยเพื่อสืบหาตัวคนร้ายแล้ว

ดังนั้น จึงขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังโดยหากมีโทรศัพท์ในลักษณะดังกล่าวก็อย่าได้เชื่อถือเสียเลยทีเดียว ต้องตรวจสอบหลักฐานให้ชัดเจน หากถูกข่มขู่คุกคามให้แจ้งความกับตำรวจได้ตลอดเวลา

รายงานข่าวแจ้งอีกว่าขณะเดียวกันวันนี้ (8 ก.พ.) ได้มีผู้สื่อข่าวท้องถิ่นใน จ.เชียงราย 2 คน ประกอบไปด้วยนายจักรภัทร แสนภูธร ผู้สื่อข่าวพิเศษเอ็นบีที.และนายราวิน เสริมวิทยากุล ผู้สื่อข่าวพิเศษหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ผดุงพล กิจชนะไพบูลย์ ร้อยเวร สภ.เมืองเชียงรายว่า มีผู้อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารธนาคารกรุงเทพโทรศัพท์ทวงหนี้ โดยอ้างว่าทั้งคู่ต่างเป็นลูกหนี้ที่ขาดผ่อนชำระจนทำให้ธนาคารกำลังจะอายัดเงินในบัญชีเงินฝาก ดังนั้นจึงขู่ให้ไปโอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็มให้ที่บัญชีใหม่ ซึ่งจะแจ้งให้ทราบต่อไปโดยด่วน แต่ทั้งคู่ไหวตัวทัน นำหลักฐานเป็นหมายเลขโทรศัพท์และอื่นๆ แจ้งความกับตำรวจได้ติดตามจับกุมแก๊งรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป