กาฬสินธุ์- “ชิงชัย มงคลธรรม” หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ แนะรัฐบาลเร่งยุติปัญหาความขัดแย้งของนักการเมืองและความแตกสามัคคีของคนในชาติด้วยการ จัดตั้ง “การปกครองพิเศษ” เฉพาะกาล สร้างนโยบายประชาธิปไตย โดยนำหลัก 66/23 ในสมัย พล.อ.เปรม มาปรับใช้ก่อนชาติหายนะ
วันนี้ (7 ก.พ.) ที่คุ้มมงคลธรรม จ.กาฬสินธุ์ นายชิงชัย มงคลธรรม หน.พรรคความหวังใหม่ เปิดแถลงการณ์ให้ความเห็นถึงปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองกับปัญหาความแตกแยกของคนในสังคมที่ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นในขณะนี้
โดยเฉพาะความพยายามในการโหมกระแสปลุกระดมของกลุ่มคนเสื้อแดง และกระแสความต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาล จนทำให้ประชาชนแตกแยกออกเป็นหลายฝ่ายทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญกับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยซีกรัฐบาลในยุคนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จนทำให้ปัญหาเกิดการสั่งสม ให้เกิดความรุนแรงประชาชนได้รับผลกระทบถึงสภาพความเป็นอยู่ที่ไม่ปกติ
นายชิงชัย มงคลธรรม หน.พรรคความหวังใหม่ กล่าวว่า วันนี้ตนยังคงต้องการให้ ฝ่ายการเมือง นักการเมืองและนักเคลื่อนไหว หยุดที่จะนำรัฐธรรมนูญไปเป็นสาเหตุในการแก้ไขปัญหาประเทศ เพราะสิ่งที่นักการเมือง ยกเอารัฐธรรมนูญไปเป็นเครื่องมือในการสร้างประชาธิปไตยนั้นเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะกฏหมายรัฐธรรมนูญถูกสร้างขึ้นมาเพียงคนกลุ่มเดียวที่ตราบทบัญญัตินำไปปกครองประเทศ
ทั้งที่ ในรัชสมัยรัชกาลที่ 7 พ.ศ.2475 มีรัฐธรรมนูญฉบับแรก พระเจ้าอยู่หัวมอบประชาธิปไตยให้กับปวงชนชาวไทย มีเป้าหมายให้ประเทศไทยเกิดสังคมประชาธิปไตยสูงสุด แต่คณะราษฎรกลับมีการตราข้อบังคับเป็นกฎหมายรัฐธรรมนูญบัญญัติเอาไว้ให้ทุกคนอยู่ภายใต้การปกครองของกฎหมาย จนเกิดความเข้าใจที่ผิดว่า ประชาธิปไตยก็คือรัฐธรรมนูญ
“สิ่งที่ผมมองอย่างนั้นก็เพราะว่า วันนี้ผู้นำรัฐบาลในแต่ละยุคสมัยเวลาต้องการจะทำอะไร ก็จะไปแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีผลบังคับใช้โดยตรงกับประชาชนโดยเฉพาะการเลือกตั้งที่หวังเพียงผลทางการเมือง ซึ่งนับเป็นแนวทางที่ผิดมาตลอด จึงทำให้วันนี้ประเทศไทยถึงทางตัน เพราะฝ่ายการเมืองเกิดปัญหาความขัดแย้งอย่างรุนแรง จนทำให้เกิดสงครามภายในประเทศ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกฎหมายไม่สามารถที่จะเอาผิดกับใครได้”
นายชิงชัยกล่าวว่า แนวทางที่นำเสนอทางออกของประเทศขณะนี้คือการจัดตั้ง “การปกครองพิเศษ” ซึ่งไม่ว่าในอนาคตจะเป็นคนกลุ่มไหนที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาประเทศ จะเป็นรัฐบาลหรือ ทหาร การปกครองพิเศษ ด้วยการสร้างนโยบายประชาธิปไตยจะเป็นคำตอบเดียวให้กับรัฐบาลหรือผู้นำในขณะนั้น โดยตนต้องการที่จะให้หันกลับไปมอง คำสั่ง 66/23 ของพล.อ.เปรมฯ ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาด้วยนโยบายไม่ใช่แก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นคำสั่งที่สามารถยุติสงครามแล้วทำให้ประชาชนหันกลับมาสร้างความสามัคคีให้กับคนในชาติ
“การปกครองพิเศษที่จะเกิดขึ้นจึงต้องสร้างนโยบายประชาธิปไตยอย่างเต็มรูปแบบ ไม่เลือกเอากลุ่มคนที่มีความขัดแย้งเข้ามาร่วมสร้างนโยบาย แต่ผู้ที่มีอำนาจจะต้องกำหนดนโยบายในการแก้ไขปัญหาออกมาทันที โดยการชักจูงให้ทุกฝ่ายเปลี่ยนแนวทางการต่อสู้จากแนวทางรุนแรงมาเป็นแนวทางสันติและเปลี่ยนแนวทางการเมืองจากเผด็จการเผด็จการมาเป็นแนวทางประชาธิปไตยที่พระมหากษัตริย์ริเริ่มไว้”
หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ได้นำเสนอทั้งหมดสามารถที่จะทำได้จริงภายใต้เงื่อนไขของการสร้างนโยบาย แต่หากผู้นำประเทศยังคงปล่อยให้นักการเมืองสร้างนำเงื่อนไขแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยแล้วนั้นอีกไม่นานประเทศชาติคงจะพบกับความหายนะจากน้ำมือของคนไม่กี่กลุ่มที่มีอำนาจและที่กำลังแย่งชิงอำนาจอยู่ในขณะนี้