มหาสารคาม - นักวิชาการชี้กองทัพแดงมีพฤติกรรมขัดต่อกฎหมายรัฐบาล เตือนฝ่ายความมั่นคงอย่านิ่งนอนใจ ก่อนประเทศชาติฉิบหายจากน้ำมือเหล่าทรราช
รศ.ดร.สุทธิพงศ์ หกสุวรรณ ประธานสมาพันธ์นักวิชาการเพื่อประชาธิปไตย จ.มหาสารคาม กล่าวว่า กรณีที่จะมีการตั้งกองทัพแดงขึ้นมา โดยจะให้ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เป็นผู้นำทัพ เรื่องนี้ชัดเจนว่าเป็นพฤติกรรมที่ขัดต่อกฎหมายความมั่นคงของชาติ มีพฤติกรรมชัดเจนว่าเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐฯ
ไม่อยากเชื่อว่าคนที่เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีอย่าง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ซึ่งเคยถูกปรามาสว่ามีพฤติกรรมฝักใฝ่คอมมิวนิสต์นานแล้ว ซึ่งท่านอายุมากแล้ว บั้นปลายชีวิตจะมาเสียคนด้วยเรื่องแบบนี้
ประเทศเพื่อนบ้านที่มีสงครามกลางเมือง มีการรบราฆ่าฟันกันเอง เป็นเพราะความเห็นแก่ตัวของคนคนเดียว และความเห็นแก่ได้ของคนกลุ่มหนึ่งที่ทำให้ประเทศชาติฉิบหาย เพราะฉะนั้น อยากฝากไว้ว่า ใครก็ตามอย่าเห็นประโยชน์ส่วนตน และกลุ่มคนที่เป็นคนไทยด้วยกันก็อย่าเห็นแก่ได้ ให้นึกถึงประเทศชาติ ทำตามกติกา
ในส่วนของรัฐบาลนิ่งนอนใจไม่ได้ ฝ่ายความมั่นคงเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ พฤติกรรมของผู้นำเสื้อแดงที่ประกาศว่าจะมีการสู้รบที่ชัดเจน เช่น ยุทธการเผากรุงเทพฯ โดยการเอาน้ำมันเบนซินมาคนละขวด ให้จับทหาร 3 คนจับมัดรวมกัน ยึดปืน ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ชัดเจนว่าต้องมีการดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ใช่ปล่อยปละละเลย เราปล่อยจนกระทั่งเหตุการณ์สุกงอมเกินไป ว่ากันโดยกฎหมาย สังคมอยากเห็นรัฐบาล อยากเห็นเจ้าหน้าที่ดำเนินการเพื่อความสงบสุขของสังคมนี้ และเพื่อความอยู่รอดของประเทศชาติ น่าแปลกว่าทำไมถึงมีการพูดถึงเรื่องการปฏิวัติ ทั้งๆ ที่ไม่มีแนวโน้ม ไม่มีสิ่งชี้นำ ตรงนี้ฝากว่าให้ดูด้วยว่าฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ ไม่มีอะไรจะเล่น โยนอะไรออกมาก็ฝ่อหมด เพราะฉะนั้น การยกประเด็นปฏิวัติขึ้นมาเป็นประเด็นที่ฝ่ายเพลี่ยงพล้ำเอามาเล่น เพื่อหาจุดยืน หาแนวร่วม ซึ่งหากจะปฏิวัติกันจริงๆ คงไม่มีใครออกมาบอกล่วงหน้า เพราะเป็นเรื่องเป็นเรื่องตาย
เหตุการณ์ความรุนแรงต่อจากนี้ ต้องดูว่ารัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แค่ไหน เพราะแน่นอนว่าอีกฝ่ายต้องการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงอยู่แล้ว การใช้มาตรการที่เป็นไปตามขั้นตอน ความชัดเจน ถูกต้องตามหลักสากล คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่หากปล่อยให้กระบวนการนี้ดำเนินการไปได้อย่างผิดกฎหมาย ต่อไปก็จะไม่มีใครเคารพกฎหมาย
รศ.ดร.สุทธิพงศ์ หกสุวรรณ ประธานสมาพันธ์นักวิชาการเพื่อประชาธิปไตย จ.มหาสารคาม กล่าวว่า กรณีที่จะมีการตั้งกองทัพแดงขึ้นมา โดยจะให้ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เป็นผู้นำทัพ เรื่องนี้ชัดเจนว่าเป็นพฤติกรรมที่ขัดต่อกฎหมายความมั่นคงของชาติ มีพฤติกรรมชัดเจนว่าเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐฯ
ไม่อยากเชื่อว่าคนที่เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีอย่าง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ซึ่งเคยถูกปรามาสว่ามีพฤติกรรมฝักใฝ่คอมมิวนิสต์นานแล้ว ซึ่งท่านอายุมากแล้ว บั้นปลายชีวิตจะมาเสียคนด้วยเรื่องแบบนี้
ประเทศเพื่อนบ้านที่มีสงครามกลางเมือง มีการรบราฆ่าฟันกันเอง เป็นเพราะความเห็นแก่ตัวของคนคนเดียว และความเห็นแก่ได้ของคนกลุ่มหนึ่งที่ทำให้ประเทศชาติฉิบหาย เพราะฉะนั้น อยากฝากไว้ว่า ใครก็ตามอย่าเห็นประโยชน์ส่วนตน และกลุ่มคนที่เป็นคนไทยด้วยกันก็อย่าเห็นแก่ได้ ให้นึกถึงประเทศชาติ ทำตามกติกา
ในส่วนของรัฐบาลนิ่งนอนใจไม่ได้ ฝ่ายความมั่นคงเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ พฤติกรรมของผู้นำเสื้อแดงที่ประกาศว่าจะมีการสู้รบที่ชัดเจน เช่น ยุทธการเผากรุงเทพฯ โดยการเอาน้ำมันเบนซินมาคนละขวด ให้จับทหาร 3 คนจับมัดรวมกัน ยึดปืน ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ชัดเจนว่าต้องมีการดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ใช่ปล่อยปละละเลย เราปล่อยจนกระทั่งเหตุการณ์สุกงอมเกินไป ว่ากันโดยกฎหมาย สังคมอยากเห็นรัฐบาล อยากเห็นเจ้าหน้าที่ดำเนินการเพื่อความสงบสุขของสังคมนี้ และเพื่อความอยู่รอดของประเทศชาติ น่าแปลกว่าทำไมถึงมีการพูดถึงเรื่องการปฏิวัติ ทั้งๆ ที่ไม่มีแนวโน้ม ไม่มีสิ่งชี้นำ ตรงนี้ฝากว่าให้ดูด้วยว่าฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ ไม่มีอะไรจะเล่น โยนอะไรออกมาก็ฝ่อหมด เพราะฉะนั้น การยกประเด็นปฏิวัติขึ้นมาเป็นประเด็นที่ฝ่ายเพลี่ยงพล้ำเอามาเล่น เพื่อหาจุดยืน หาแนวร่วม ซึ่งหากจะปฏิวัติกันจริงๆ คงไม่มีใครออกมาบอกล่วงหน้า เพราะเป็นเรื่องเป็นเรื่องตาย
เหตุการณ์ความรุนแรงต่อจากนี้ ต้องดูว่ารัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แค่ไหน เพราะแน่นอนว่าอีกฝ่ายต้องการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงอยู่แล้ว การใช้มาตรการที่เป็นไปตามขั้นตอน ความชัดเจน ถูกต้องตามหลักสากล คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่หากปล่อยให้กระบวนการนี้ดำเนินการไปได้อย่างผิดกฎหมาย ต่อไปก็จะไม่มีใครเคารพกฎหมาย
