เชียงราย – พายุลูกเห็บ-ฝน ถล่มพื้นที่อำเภอแม่สรวย 25 หมู่บ้าน ทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายกว่า 1,000 หลังคาเรือน บางบ้านพังทั้งหลัง แถมพืชผลเสียหายอีกเพียบ รวมมูลค่าความเสียหายร่วม 60 ล้าน
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (27 ม.ค.) นายบุญยัง เรือนกูล นายอำเภอแม่สรวย พร้อมด้วยนายมนตรี นิเวศน์รองนายกองค์การบริหารส่วน ต.ป่าแดด อ.แม่สรวย นำคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าสำรวจความเสียหายอันเกิดจากพายุลูกเห็บ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งผลการสำรวจพบว่าพายุลูกเห็บได้สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนประชาชนกว่า 1,000 หลังคาเรือน โดยเกิดขึ้นในท้องที่ 4 ตำบล คือ ต.ศรีถ้อย ต.แม่พริก ต.เจดีย์หลวง และ ต.ป่าแดด รวมหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบจำนวน 25 หมู่บ้าน โดยเฉพาะใน ต.ป่าแดด เพียงตำบลเดียวได้รับความเสียหายถึง 650 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่เสียหายเพราะหลังคาบ้านเปิดออกด้วยแรงลม กระเบื้องมุงหลังคาเป็นรูเพราะลูกเห็บตกกระทบ ขณะที่บางหลังพังเสียหายทั้งหลัง
นางขันคำ สมพมิตร อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 หมู่ 17 ต.ป่าแดด กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน โดยก่อนพายุพัดจะมีเสียงของลมและแรงพายุส่งเสียงคำรามดังมาทั่วทิศ จากนั้นก็มีเสียงบ้านพังลงทั้งหลัง ซึ่งน่ากลัวมาก โชคดีที่ตนเองได้หลบเข้าไปอยู่ในห้องน้ำและหากยังอยู่ในบ้านไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง ทั้งนี้บ้านของตนก่อสร้างด้วยเงินประมาณ 200,000 บาท ดังนั้นเมื่อพังหมดจึงอยู่ในสภาพหมดตัวเลยทีเดียว
ด้านนายบุญยัง เรือนกูล นายอำเภอแม่สรวย กล่าวว่า ได้สั่งการให้กำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ที่ได้รับภัยพิบัติลงไปสำรวจจำนวนและประเมินมูลค่าความเสียหายแล้ว พบว่าในภาพรวมมีบ้านเรือนเสียหายประมาณ 1,000 หลังคาเรือน แต่มีอย่างน้อย 10 หลังที่พังลงมาทั้งหลัง ส่วนพืชผลทางการเกษตรได้แก่มันฝรั่ง หอม กระเทียม ไร่ข้าวโพด ฯลฯ ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนหลายร้อยไร่และสัตว์เลี้ยงตายจำนวนหนึ่ง ซึ่งตัวเลขที่ชัดเจนอยู่ระหว่างรอการสรุปผล กระนั้นก็คาดการณ์ว่าความเสียหายจากวาตภัยครั้งนี้จะอยู่ที่ประมาณ 60 ล้านบาท
เบื้องต้นทางจังหวัดโดยนายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย อำเภอแม่สรวย และ อบต.ป่าแดด ได้นำถุงยังชีพลงไปให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบแล้ว ส่วนกระเบื้องมุ่งหลังคาได้มีการแจกจ่ายให้ประชาชนไปแล้ว 6,000 แผ่น ซึ่งหากไม่เพียงพอทางอำเภอจะขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป