เชียงราย – พะยุลูกเห็บถล่มซ้ำ พืชผลทางการเกษตรในพื้นที่อำเภอเมืองพานเสียหายยับ ฝ่ายปกครอง-ปภ.เร่งสำรวจความเสียหายก่อนเยียวยา
รายงานข่าวแจ้งว่าเช้าวันนี้ (4 เม.ย.) นายชวลิต เมฆจำเริญ นายอำเภอพาน จ.เชียงราย ได้รับแจ้งมีเหตุพายลูกเห็บถล่มพื้นที่ส่วนใหญ่ของ ต.เจริญเมือง ติดต่อกันหลายชั่วโมงเมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา จึงร่วมกับ ร.ต.ต.มนูญ แสงลังกา นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เจริญเมือง ไปตรวจสอบสภาพความเสียหายปรากฎว่าพบว่าบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่หลายหมู่บ้านโดยเฉพาะที่หมู่บ้านศรีทรายทอง หมู่ 3 ต.เจริญเมือง ได้รับความเสียหายอย่างหนักโดยส่วนใหญ่จะถูกลูกเห็บขนาดใหญ่ตกลงใส่หลังคาบ้านจนเสียหายเป็นรูพรุน ขณะที่บางหลังถูกพายุพัดเอาหลังคาจนเสียหายทั้งแถบ รวมบ้านเรือนราษฎรที่ถูกพายุลมพัดและลูกเห็บถล่มเสียประมาณ 400 หลังคาเรือน
นอกจากนี้พบว่าพืชผลทางการเกษตรทั้งข้าวนาปรัง ลำไย ฟักทอง ฯลฯ ซึ่งชาวบ้านได้ปลูกเอาไว้ในพื้นที่ ต.เจริญเมือง เนื้อที่ประมาณ 500 ไร่ ถูกพายุลูกเห็บตกใส่จนเสียหายเกือบทั้งหมดทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างเดือดร้อนกันโดยถ้วนหน้าทั้งเรื่องที่อยู่อาศัยและอาชีพทางการเกษตร ล่าสุดนายสุเทพ เดชศรีชัย ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.เชียงราย ได้เดินทางลงไปสำรวจความเสียหายร่วมกับทางอำเภอและ อบต.เจริญเมือง แล้วเพื่อประเมินผลและจัดสรรงบประมาณชดเชยให้กับชาวบ้านดังกล่าว
ร.ต.ต.มนูญ กล่าวว่า บ้านเรือนราษฎรจะเสียหายหนักดังกล่าวอยู่ระหว่างประสานข้อมูลกับทาง ปภ.เพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป แต่สิ่งที่เป็นปัญหาหนักในครั้งนี้คือพืชผลทางการเกษตร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลำไยที่กำลังให้ผลขนาดเล็กได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้างอันจะกระทบกับชาวบ้านในระยะยาว
นอกจากนี้ยังมีไร่ฟักทองที่ชาวบ้านปลูกกันมกในพื้นที่พบว่าผลฟักที่กำลังมีขนาดใหญ่ถูกลูกเห็บตกใส่จนผล ลำต้น ใบเสียหายทั้งหมดไม่สามารถเจริญเติบโตได้อีก หากชาวบ้านไม่เก็บผลที่เหลือไปใช้ประโยชน์ภายใน 1-2 วันนี้คงจะเสี่ยงต่อการเน่าเสีย ทั้งนี้ในภาพรวมอยู่ระหว่างประเมินมูลค่าความเสียหายกันอยู่
ขณะที่นางมูล กันยุดม อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่บ้านศรีทรายทอง ต.เจริญเมือง กล่าวพายุลูกเห็บพัดเข้าไปในพื้นที่เร็วมากจนไม่ทันตั้งตัว และนอกจากฝนและพายุแล้วลูกเห็บยังตกลงมานานกว่า 30 นาทีรวมทั้งมีขนาดใหญ่จนทำให้หลังคาบ้านทนแรงไม่ไหวและเสียหายในที่สุด ทั้งนี้ถือว่าพายุลูกเห็บปีนี้รุนแรงกว่าปีที่ผ่านๆ มามากเพราะนอกจะมาเร็วโดยไม่มีสัญญานบอกเหตุ ยังทำลายบ้านเรือนและพืชผลทางการเกษตรจนเดือดร้อนกันอย่างหนักอีกด้วย