หนองคาย- รวบสองผัวเมียข้ามโขง รับยาบ้ากว่า 2 พันเม็ด ถูกรวบคาด่านสะพานมิตรภาพไทย –ลาว ก่อนพาตำรวจขยายผลจับเอเยนต์ได้อีก 1 ราย
เมื่อเวลา 00.30 น. วันนี้( 26 ม.ค.) ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว อ.เมืองหนองคาย นายภราดร พงษ์สุวรรณ นายด่านศุลกากรหนองคาย, นายเผดิมเดช มั่งคั่ง หัวหน้าฝ่ายควบคุมทางศุลกากร, ร.ต.อ.อดุลย์ ฉิมทับ หัวหน้าชุดเฉพาะกิจตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสนธิกำลังสกัดกั้นยาเสพติด จ.หนองคาย ได้ร่วมกันสอบสวนจับกุมนายแสงตะวัน พิลา อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119 หมู่ 3 ต.บ้านจีต อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี, น.ส.ชนกพร ชาญกิจตระกูล อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 2 ต.นายูง อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี สองสามีภรรยา และนายสวัสดิ์ พรหมภักดี อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 195 หมู่ 11 ต.สำราญ อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ พร้อมของกลางยาบ้าบรรจุในถุงพลาสติก ซุกซ่อนในขวดโลชั่นทาผิวและขวดสบู่เหลว จำนวน 12 ถุง รวม 2,383 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้า
ทั้งนี้ขณะที่นายแสงตะวัน และ น.ส.ชนกพร ได้สะพายกระเป๋าเสื้อผ้าลงจากรถโดยสารประจำสะพานมิตรภาพไทย – ลาว เข้าทำพิธีการผ่านแดน ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจค้นและพบยาบ้าจำนวนดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ ทั้งสองรับสารภาพว่าจะนำยาบ้าไปส่งให้กับนายสวัสดิ์ ที่ อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขยายผลติดตามจับกุมนายสวัสดิ์ไว้ได้
จากการสอบสวนนายสวัสดิ์ ให้การรับสารภาพว่า ได้ติดต่อให้นายแสงตะวันและ น.ส.ชนกพร ไปรับยาบ้าจากชาวลาวที่ตลาดเช้าเวียงจันทน์ โดยนำเงินให้ทั้งสองคนจำนวน 75,000 บาท เป็นค่าซื้อยาบ้าและค่าจ้าง 10,000 บาท แล้วให้นำยาบ้าไปส่งให้ตน ที่้เวียงจันทน์ โดยนำเงินให้ทั้งสองคน่างเกาหลีแห่งหนึ่ง ใน อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี เจ้าหน้าที่ตร้านเนื้อย่างเกาหลีแห่งหนึ่ง ใน อ.วังสามหมอ จากนั้นตนจะนำยาบ้าไปขายต่อให้กับเอเยนต์ ถุงละ 30,000 บาท โดยทำครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว
ด้าน น.ส.ชนกพร ให้การว่า ที่ต้องรับจ้างขนยาบ้า เพราะต้องหาเงินเลี้ยงแม่ที่หูหนวก พ่อก็เพิ่งผูกคอตายเมื่อเดือนที่แล้ว อีกทั้งต้องหาเงินเลี้ยงลูกช่วยสามีด้วย ลำพังรายได้จากการทำไร่ทำนาและรับจ้างทั่วไปของตนและสามีไม่พอใช้จ่าย จึงต้องหาเงินด้วยการรับจ้างขนยาบ้าดังกล่าว