มหาสารคาม- สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำในจังหวัดมหาสารคาม 3 แห่งเข้าขั้นวิกฤติแล้ว เหตุน้ำต้นทุนเขื่อนอุบลรัตน์มีน้อย หวั่นกระทบปลากระัชัง
นายวรรัตน์ ประวาลปัทมกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานมหาสารคาม กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ภัยแล้งพบว่าปีนี้น่าเป็นห่วงกว่าทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากความแปรปรวของสภาพอากาศ และมีการใช้น้ำเพื่อทำการเกษตรพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการทำนาปรัง เนื่องจากข้าวมีราคาดี
ถึงแม้ว่าภาพรวมแม้อ่างเก็บน้ำทั้ง 17 แห่งตามอำเภอต่างๆ จะมีปริมาณน้ำเ็ก็บกักรวม 60.00 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเ็ป็นร้อยละ 73 ของปริมาณความจุอ่าง 78 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่มีอ่างเก็บน้ำถึง 3 แห่งที่อยู่ในขั้นวิกฤต คือ อ่างเก็บน้ำหนองกระทุ่ม ในเขตอำเภอเมือง มีปริมาณกักเ็ก็บร้อยละ 41 ของความจุอ่าง อ่างเก็บน้ำห้วยประดู่ อำเภอบรบือ มีปริมาณกักเก็บร้อยละ 43.65 ของความจุอ่าง และ่อ่างเก็บน้ำในอำเภอบรบือ มีปริมาณกักเก็บเหลือเพียงร้อยละ 7.24 ของความจอ่างเท่านั้น ทั้งนี้เนื่องจากอ่างเก็บน้ำดังกล่าวอยู่ในช่วงขุดลอกเพื่อเพิ่มปริมาณความจุของน้ำในอ่าง
ขณะที่สถานการณ์น้ำในลำน้ำชีตลอด 80 กิโลเมตรที่ไหลผ่านอำเภอโกสุมพิสัย กันทรวิชัย เชียงยืน และำเภอเมือง ซึ่งใช้น้ำต้นทุนจากเขื่อนอุบลรัตน์นั้น ขณะนี้น้ำต้นทุนอยู่ที่ร้อยละ 53 ของความจุเท่านั้น และสถานีสูบน้ำจำนวนกว่า 40 แห่งตลอดลำน้ำชีได้สูบน้ำเพื่อนำไปผลิตน้ำประปา และใช้ในการเกษตรเพิ่มมากขึ้น ทำให้ปริมาณน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจส่งผลต่อการเลี้ยงปลากระชังตลอดลำน้ำชี
เนื่องจากเขื่อนอุบลรัตน์ ต้องรักษาระดับน้ำเอาไว้ ส่งผลให้น้ำนิ่ง สิ่งสกปรกไม่ไหลเวียน มีโอกาสที่จะเกิดน้ำเน่าเสียและปลากะชังขาดออกซิเจนตายได้ อย่างไรก็ตาม เกษตรกรผู้เี้ลี้ยงปลากระชังควรเฝ้าระวังและติดตามสถาการณ์น้ำใกล้ชิด เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้