เตือนงดปลูกข้าวนาปรังหวั่นภัยแล้ง เสี่ยงขาดทุนสูง

มหาสารคาม - ชาวนาแห่ปลูกข้าวนาปรังทั้งในเขตและนอกเขตชลปะทาน เนืองจากราคาข้าวจูงใจ ขณะที่ชลประทานจังหวัดเตือนเกษตรกรให้ปลูกพืชใช้น้ำน้อยทดแทน หวั่นนาข้าวได้รับผลกระทบจากกัยแล้ง

นายวรรัตน์ ประวาลัทมกุล หัวหน้าโครงการชลประทานจังหวัดมหาสารคาม กล่าวถึง สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 17 แห่ง มีปริมาณเก็บกักอยู่ที่ร้อยละ 70 จากปริมาณน้ำทั้งหมด คาดว่าสถานการณ์ภัยแล้งในเขตชลประทานคงไม่ประสบกับภาวะภัยแล้ง ในบริเวณที่ต้องเฝ้าระวังคือพื้นที่อ่างเก็บน้ำกุดโด ตำบท่าสองคอน ำเภอเมืองมหาสารคาม ซึ่งทางชลประทานได้รับงบประมาณมาปรับปรุงอ่างเก็บน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม จะมีการขุดลอกเพื่อระบายน้ำออก แต่เกษตรกรในบริเวณดังกล่าวบางส่วนได้ปลูกข้าวนาปรังไปแล้ว ซึ่งหากทางชลประทานระบายน้ำออกก็จะมีปัญหา

ส่วนพื้นที่อื่นที่ติดแม่น้ำชีควรติดตามสถานการณ์น้ำในลำน้ำอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าต่างๆ ได้สูบน้ำไปทำน้ำประปาตามหมู่บ้านส่งผลให้ปริมาณน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว และปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนอุบลรัตน์มีเพียงร้อยละ 53 ของความจุเท่านั้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการทำนาปรังในเขตชลประทานน้ำพองหนองหวาย พื้นที่อำเภอโกสุมพิสัย และอำเภอเชียงยืนให้ได้รับความเสียหายจากปริมาณนำไม่เพียงพอได้

ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักงานเกษตรจังหวัดพบว่า มีชาวนาปลูกข้าวนาปรังไปแล้วกว่า 43,000 ไร่ ในจำนวนนี้เป็นพื้นที่ในอำเภอที่ไม่เคยปลูกข้าวนาปรังมาก่อน คืออำเภอพยัคฆภูมิพสัย นาเชือก ยางสีสุราช วาปีปทุม และอำเภอบรบือ โดยอาศัยสูบน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ รวมพื้นที่ กว่า 4,000 ไร่ จึงอยากฝากเตือนเกษตรกรที่ยังไม่ได้ปลูกข้าวนาปรังให้งดปลูก เพือป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

ควรหันมาปลูกพืชใช้น้ำน้อย อาทิ ข้าวโพด พืชไร่ และพืชผักที่ให้ผลตอบแทนต่อไรู่สูงกว่าข้าวนาปรังทดแทน ซึ่งถือเป็นพืชเศรษฐกิจและสมารถทำรายได้ให้แก่เกษตรกรในช่วงฤดูแล้งได้เป็นอย่างดี